ค้นหา

Tips&Ideas


ปูนกาวคืออะไร? ใช้ต่างจากปูนซีเมนต์อย่างไร และเหมาะกับงานแบบไหนบ้าง

เผยแพร่เมื่อ 22 ธันวาคม 2568 • อัพเดทเมื่อ 24 ธันวาคม 2568

การปูกระเบื้อง ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ความสวยของลายกระเบื้องหรือฝีมือของช่างที่มาติดตั้งเท่านั้น แต่หลายท่านลืมหัวใจหลักสุดสำคัญอย่าง ปูนกาว ที่เป็นวัสดุที่ใช้ยึดกระเบื้องกับพื้นและผนัง ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่ปูนซีเมนต์ผสมทรายแบบเดิมทำไม่ได้ บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจแบบเจาะลึกว่า ปูนกาวคืออะไร ต่างจากปูนทั่วไปอย่างไร ใช้กับงานแบบไหน และควรเลือกใช้อย่างไรให้ถูกต้องตั้งแต่แรก

 

กาทาปูนกาว ใช้สำหรับปูกระเบื้อง

 

 

ปูนกาวคืออะไร

ปูนกาว (Tile Adhesive) คือวัสดุที่ใช้สำหรับงานปูกระเบื้องโดยเฉพาะ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวประสานระหว่างกระเบื้องปูพื้นหรือผนัง ให้กระเบื้องติดแน่นและแข็งแรง ลดปัญหากระเบื้องหลุด ร่อน หรือแตกร้าวในระยะยาว ปูนกาวถูกพัฒนาขึ้นมาแทนการใช้ปูนซีเมนต์ผสมทรายแบบเดิม เพราะกระเบื้องยุคใหม่ โดยเฉพาะ กระเบื้องแกรนิตโต้และกระเบื้องแผ่นใหญ่ มีผิวแน่น ดูดซึมน้ำน้อย ทำให้ปูนทั่วไปยึดเกาะได้ไม่ดีเท่าที่ควร

 

จุดเด่นของปูนกาว

1.แรงยึดเกาะสูงกว่าปูนทั่วไป

ปูนกาวมีสารยึดเกาะพิเศษ ช่วยให้กระเบื้องติดแน่นกับพื้นหรือผนัง ลดปัญหากระเบื้องหลุด ร่อน หรือดีดตัวในระยะยาว โดยเฉพาะกระเบื้องแกรนิตโต้ที่ดูดซึมน้ำน้อย

 

2. มีความยืดหยุ่น ลดการแตกร้าว

พื้นและผนังมักมีการขยาย–หดตัวจากอุณหภูมิและความชื้น ปูนกาวมีความยืดหยุ่นมากกว่า จึงช่วยลดการแตกร้าวของกระเบื้องและยาแนว

 

3. ปูแบบชั้นบาง งานเรียบสวย

ปูนกาวใช้ปูในความหนาที่บางและสม่ำเสมอ ทำให้พื้นหรือผนังเรียบ ไม่เป็นคลื่น ลดปัญหากระเบื้องไม่เสมอกัน

 

4. เหมาะกับกระเบื้องทุกประเภท

รองรับทั้งกระเบื้องเซรามิก แกรนิตโต้ กระเบื้องแผ่นใหญ่ รวมถึงกระเบื้องดูดซึมน้ำน้อยที่ปูนธรรมดายึดเกาะได้ยาก

 

5. ทำงานง่าย ควบคุมคุณภาพได้ดี

ปูนกาวเป็นสูตรสำเร็จ ผสมตามสัดส่วนที่กำหนด ช่วยให้คุณภาพงานสม่ำเสมอ ลดความผิดพลาดจากการผสมปูนเอง

 

6. ลดปัญหางานซ่อมในอนาคต

เมื่อปูกระเบื้องด้วยปูนกาวที่เหมาะสม จะช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดโอกาสเกิดปัญหาพื้นหรือผนังต้องรื้อซ่อมบ่อย

 

ส่วนประกอบของปูนกาว

ปูนกาวไม่ได้เป็นเพียงปูนซีเมนต์ธรรมดา แต่เป็นวัสดุที่ถูกพัฒนาสูตรมาเฉพาะสำหรับงานปูกระเบื้อง โดยมีส่วนประกอบหลักที่ทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะ ความยืดหยุ่น และความทนทาน ซึ่งโดยทั่วไปประกอบด้วย

1.ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ (Portland Cement)

เป็นโครงสร้างหลักของปูนกาว ทำหน้าที่ให้ความแข็งแรงและความคงทนหลังการเซตตัว เมื่อแห้งแล้วจะช่วยยึดกระเบื้องให้ติดแน่นกับพื้นหรือผนัง

2. ทรายละเอียดคัดพิเศษ

เป็นทรายที่ผ่านการคัดขนาดให้สม่ำเสมอ ต่างจากทรายก่อสร้างทั่วไป ช่วยให้เนื้อปูนเนียน เกลี่ยง่าย และทำให้ชั้นปูนมีความเรียบ ลดปัญหาพื้นไม่เสมอกัน

3. สารยึดเกาะพิเศษ (Polymer Additives)

เป็นหัวใจสำคัญของปูนกาว ทำหน้าที่เพิ่มแรงยึดเกาะระหว่างกระเบื้องกับพื้นผิว ทำให้ปูนกาวยึดติดกับกระเบื้องแกรนิตโต้หรือกระเบื้องดูดซึมน้ำน้อยได้ดีกว่าปูนธรรมดา

4. สารเพิ่มความยืดหยุ่น

ช่วยให้ปูนกาวสามารถรองรับการขยาย–หดตัวของพื้นหรือผนัง ลดโอกาสการแตกร้าว และป้องกันกระเบื้องหลุดในระยะยาว

5. สารควบคุมการก่อตัวและการทำงาน (Workability Additives)

ช่วยให้ปูนกาวมีเวลาทำงานที่เหมาะสม ไม่แห้งเร็วเกินไป เกลี่ยง่าย ปรับตำแหน่งกระเบื้องได้สะดวกในระหว่างการติดตั้ง

6. สารช่วยอุ้มน้ำ (Water Retention Agent)

ช่วยรักษาความชื้นในเนื้อปูน ทำให้ปูนเซตตัวได้สมบูรณ์ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะ และลดปัญหาปูนแห้งเร็วเกินไป

 

 

ปูนกาวต่างจากปูนซีเมนต์ทั่วไปอย่างไร

หลายคนยังคุ้นเคยกับการใช้ ปูนซีเมนต์ผสมทราย แต่เมื่อรูปแบบกระเบื้องเปลี่ยนไป วิธีเดิมจึงเริ่มไม่ตอบโจทย์

หัวข้อเปรียบเทียบ

ปูนกาว

ปูนซีเมนต์ผสมทราย

แรงยึดเกาะ

สูงมาก ออกแบบมาสำหรับกระเบื้อง

ต่ำกว่า ยึดด้วยแรงอัด

ความยืดหยุ่น

มี ลดการแตกร้าว

แข็ง เปราะ

ความหนาในการปู

ปูบาง งานเรียบ

ต้องปูหนา

เหมาะกับกระเบื้องแกรนิตโต้

เหมาะมาก

ไม่แนะนำ

กระเบื้องแผ่นใหญ่

รองรับได้ดี

เสี่ยงหลุด

อายุการใช้งาน

ยาวนาน

มีโอกาสร่อนในระยะยาว



ประเภทของปูนกาว

ปูนกาวไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่ถูกออกแบบแยกประเภทตามลักษณะการใช้งาน ประเภทกระเบื้อง และสภาพพื้นที่ เพื่อให้การยึดเกาะมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยทั่วไปสามารถแบ่งประเภทของปูนกาวได้ดังนี้

 

1. ปูนกาวสำหรับงานปูพื้นทั่วไป (Standard Tile Adhesive)

เป็นปูนกาวพื้นฐาน เหมาะกับงานปูกระเบื้องทั่วไปภายในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นพื้นหรือผนัง เหมาะกับขนาดเล็ก - กลาง โดยเฉพาะกระเบื้องประเภทเซรามิก และต้องเป็นพื้นที่แห้งตลอดเวลา ไม่ค่อยโดนน้ำ

2. ปูนกาวสำหรับกระเบื้องแกรนิตโต้

ออกแบบมาเพื่อกระเบื้องที่ดูดซึมน้ำน้อย ซึ่งต้องการแรงยึดเกาะสูงกว่าปกติ เหมาะกับพื้นที่ที่ถูกใช้งานหนัก ๆ พื้นที่ๆ แข็งแรง อย่างเช่น โรงจอดรถ ทางเดินภายนอกบ้าน ลานกิจกรรม ส่วนใหญ่จะใช้กับกระเบื้องแกรนิตโต้หรือกระเบื้องเนื้อแน่น ๆ 

 

3. ปูนกาวสำหรับกระเบื้องแผ่นใหญ่ (Large Format Tile Adhesive)

สำหรับกระเบื้องขนาดใหญ่หรือแผ่นยาว ซึ่งมีน้ำหนักมากและต้องการการยึดเกาะเป็นพิเศษ ซึ่งงานปูพื้นควรที่จะเป็นพื้นที่ที่มีความเรียบสูง

4. ปูนกาวสำหรับงานภายนอก

พัฒนาสูตรให้ทนต่อสภาพอากาศ แดด ฝน และความชื้นสูง เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานกับพื้นที่ภายนอกอาคาร เช่น ระเบียง เฉลียง ทางเดิน และพื้นที่โดนน้ำหรืออุณหภูมิเปลี่ยนบ่อย

 

5. ปูนกาวสำหรับปูกระเบื้องทับของเดิม (Tile-on-Tile Adhesive)

ใช้สำหรับงานรีโนเวทที่ไม่ต้องรื้อกระเบื้องเก่า เหมาะกับการใช้งานแบบปูกระเบื้องใหม่ทับกระเบื้องเดิม งานรีโนเวทที่ต้องการประหยัดเวลา และพื้นหรือผนังที่มีโครงสร้างแข็งแรง

 

6. ปูนกาวชนิดยืดหยุ่นพิเศษ

เหมาะกับพื้นที่ที่มีการขยับตัว หรือมีแรงสั่นสะเทือน เหมาะกับงานพิเศษที่ต้องการยืดหยุ่นสูง หรือพื้นที่เสี่ยงแตกร้าว และพื้นที่ใกล้โครงสร้างที่มีการเคลื่อนไหว

การทาปูนกาว

ปูนกาวใช้งานแบบไหนได้บ้าง

ปูนกาวเหมาะกับงานปูกระเบื้องเกือบทุกประเภท เช่น

  • ปูพื้นและผนังภายในบ้าน

  • ปูพื้นหน้าบ้าน ระเบียง ทางเดิน

  • ปูห้องน้ำ ห้องครัว

  • งานรีโนเวทบ้านและคอนโด

  • งานปูกระเบื้องทับของเดิม (ไม่ทุบ)

วิธีเลือกปูนกาวให้เหมาะกับการใช้งาน

การเลือกปูนกาวที่เหมาะสม เป็นหัวใจสำคัญของงานปูกระเบื้อง เพราะถึงแม้จะเลือกกระเบื้องสวย ราคาแพงแค่ไหน แต่หากใช้ปูนกาวผิดประเภท ปัญหากระเบื้องหลุด ร่อน หรือแตกร้าว ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในระยะยาว ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกปูนกาว ควรพิจารณาในแต่ละประเด็นต่อไปนี้อย่างละเอียด

 

1. เลือกปูนกาวให้เหมาะกับชนิดของกระเบื้อง

กระเบื้องแต่ละชนิดมีโครงสร้างและอัตราการดูดซึมน้ำไม่เท่ากัน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อแรงยึดเกาะของปูนกาว
กระเบื้องเซรามิกจะมีการดูดซึมน้ำได้ดีกว่า ทำให้ปูนกาวยึดเกาะได้ง่าย สามารถใช้ปูนกาวสูตรมาตรฐานได้ แต่ในกรณีของกระเบื้องแกรนิตโต้ ซึ่งมีเนื้อแน่นและดูดซึมน้ำน้อย หากใช้ปูนกาวทั่วไป อาจทำให้ยึดเกาะได้ไม่ดี จำเป็นต้องเลือกปูนกาวที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับแกรนิตโต้ เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะและลดความเสี่ยงกระเบื้องหลุดในอนาคต

 

2. พิจารณาขนาดและน้ำหนักของกระเบื้อง

ขนาดของกระเบื้องมีผลอย่างมากต่อการเลือกปูนกาว ยิ่งกระเบื้องมีขนาดใหญ่หรือแผ่นยาว น้ำหนักต่อแผ่นก็ยิ่งมาก หากใช้ปูนกาวที่รองรับน้ำหนักไม่เพียงพอ อาจเกิดปัญหากระเบื้องยุบตัว แอ่น หรือหลุดร่อน
สำหรับกระเบื้องขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ปูนกาวทั่วไปมักเพียงพอ แต่หากเป็นกระเบื้องแผ่นใหญ่ ควรเลือกปูนกาวสูตรสำหรับกระเบื้องขนาดใหญ่โดยเฉพาะ เพื่อช่วยกระจายน้ำหนักและทำให้กระเบื้องแนบสนิทกับพื้นผิวได้ดียิ่งขึ้น

 

3. เลือกปูนกาวให้เหมาะกับพื้นที่ใช้งาน

พื้นที่ใช้งานเป็นอีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม งานภายในอาคารมักไม่ต้องเผชิญกับแดด ฝน หรือความชื้นสูง จึงสามารถใช้ปูนกาวสูตรทั่วไปได้
แต่สำหรับพื้นที่ภายนอก เช่น ระเบียง ทางเดิน หรือพื้นที่หน้าบ้าน ปูนกาวต้องสามารถทนต่อสภาพอากาศ ความชื้น และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ดี หากเลือกปูนกาวที่ไม่เหมาะสม อาจเสื่อมสภาพเร็วและทำให้กระเบื้องหลุดในระยะเวลาไม่นาน

 

4. ตรวจสอบสภาพพื้นผิวก่อนปูกระเบื้อง

สภาพพื้นผิวเดิมเป็นตัวกำหนดว่าควรใช้ปูนกาวประเภทใด หากเป็นพื้นปูนใหม่หรือพื้นเรียบ แข็งแรง ปูนกาวมาตรฐานก็สามารถใช้งานได้
แต่หากเป็นงานรีโนเวทที่ต้องปูกระเบื้องทับของเดิม จำเป็นต้องเลือกปูนกาวที่มีแรงยึดเกาะสูงเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถยึดติดกับผิวกระเบื้องเดิมได้อย่างแน่นหนา หากเลือกปูนกาวผิดประเภท แม้พื้นผิวจะดูเรียบดี แต่แรงยึดเกาะอาจไม่เพียงพอในระยะยาว

 

5. เลือกปูนกาวให้เหมาะกับลักษณะงานปูพื้นหรือปูผนัง

งานปูพื้นและงานปูผนังมีแรงกระทำต่อกระเบื้องแตกต่างกัน งานปูพื้นต้องรองรับน้ำหนักจากการเดินและการใช้งาน จึงต้องใช้ปูนกาวที่แข็งแรงและไม่ยุบตัวง่าย
ในขณะที่งานปูผนัง ปูนกาวต้องมีคุณสมบัติยึดเกาะดีและไม่ไหลตัว เพื่อป้องกันกระเบื้องไถลลงระหว่างการติดตั้ง หากเลือกปูนกาวไม่เหมาะสม อาจทำให้กระเบื้องเอียงหรือหลุดจากผนังได้

 

6. พิจารณาคุณสมบัติพิเศษที่จำเป็นต่อหน้างาน

บางพื้นที่ต้องการปูนกาวที่มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มเติม เช่น พื้นที่ที่มีการขยับตัวเล็กน้อย ควรใช้ปูนกาวชนิดยืดหยุ่น เพื่อรองรับการขยายและหดตัวของโครงสร้าง
ในกรณีของงานรีโนเวท หรือพื้นที่ที่ต้องการลดขั้นตอนการรื้อถอน การเลือกปูนกาวสูตรปูทับจะช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพพื้นจริง

 

7. เลือกปูนกาวที่ได้มาตรฐานและมีข้อมูลชัดเจน

สุดท้าย ปูนกาวที่ดีควรมาจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน มีการระบุประเภทการใช้งาน ชนิดกระเบื้องที่เหมาะสม และวิธีการใช้งานอย่างชัดเจน การเลือกปูนกาวที่มีข้อมูลครบถ้วน จะช่วยให้ใช้งานได้ถูกต้อง ลดปัญหาหน้างาน และทำให้กระเบื้องติดแน่น ใช้งานได้ยาวนาน

 

ข้อดีของการใช้ปูนกาว

1. กระเบื้องติดแน่น ไม่หลุดร่อน

ปูนกาวมีคุณสมบัติที่ออกแบบมาให้มีแรงยึดเกาะสูงกว่าปูนทั่วไป ทำให้สามารถยึดกระเบื้องกับพื้นหรือผนังได้อย่างหนาแน่น จึงช่วยลดปัญหากระเบื้องหลุด ร่อน หรือดีดตัวในระยะยาว

 

2. งานเรียบสวย ใช้ปูบาง

ปูนกาวสามารถปูได้ในชั้นบาง ทำให้กระเบื้องแนบสนิทกับพื้นผิวเดิม งานที่ได้จึงดูเรียบ สม่ำเสมอ และควบคุมระดับพื้นได้ง่าย เหมาะกับทั้งงานสร้างใหม่และงานรีโนเวทที่ไม่ต้องการเพิ่มระดับพื้นมากเกินไป

 

3. ลดปัญหาโพรงอากาศและเสียงกลวง

เมื่อปูนกาวถูกปาดด้วยเกรียงหวีอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ปูนกระจายตัวสม่ำเสมอใต้แผ่นกระเบื้อง ลดการเกิดโพรงอากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของเสียงกลวงและการแตกร้าวในอนาคต ทำให้งานปูมีคุณภาพและแข็งแรงมากขึ้น

 

4. ประหยัดเวลาและแรงงาน

ปูนกาวเป็นวัสดุสำเร็จรูป เพียงผสมน้ำตามสัดส่วนก็พร้อมใช้งาน ไม่ต้องผสมทรายหรือปรับสูตรหน้างาน ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน ทำให้งานปูกระเบื้องเสร็จเร็วขึ้น และใช้แรงงานน้อยกว่าวิธีดั้งเดิม

 

5. เพิ่มอายุการใช้งานของพื้นและผนัง

เมื่อกระเบื้องติดแน่นและไม่มีโพรงอากาศ พื้นและผนังจะมีความแข็งแรงมากขึ้น ลดปัญหาการแตกร้าวหรือหลุดร่อนในระยะยาว ส่งผลให้อายุการใช้งานของงานปูกระเบื้องยาวนานขึ้น และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม

 

ข้อควรระวังในการใช้ปูนกาว

1. ผสมน้ำตามสัดส่วนที่กำหนด

การผสมน้ำมากหรือน้อยเกินไป จะส่งผลต่อคุณสมบัติของปูนกาว หากน้ำมากเกินไป ปูนจะเหลว แรงยึดเกาะลดลง แต่หากน้ำน้อยเกินไป ปูนจะแห้งเร็ว ทำงานยากและยึดเกาะไม่เต็มที่ ควรผสมตามสัดส่วนที่ผู้ผลิตแนะนำอย่างเคร่งครัด

 

2. ใช้เกรียงหวีให้เหมาะกับขนาดกระเบื้อง

ขนาดฟันของเกรียงหวีมีผลต่อปริมาณปูนกาวใต้กระเบื้อง หากใช้เกรียงที่ฟันเล็กเกินไปกับกระเบื้องแผ่นใหญ่ ปูนอาจไม่พอ ทำให้เกิดโพรงอากาศได้ ควรเลือกเกรียงหวีให้เหมาะกับขนาดและประเภทกระเบื้องที่ใช้งาน

 

3. ห้ามใช้ปูนกาวผิดประเภท

ปูนกาวแต่ละชนิดถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานต่างกัน เช่น กระเบื้องแกรนิตโต้ กระเบื้องแผ่นใหญ่ หรือพื้นที่ภายนอก หากใช้ผิดประเภท อาจทำให้แรงยึดเกาะไม่เพียงพอและเกิดปัญหาในระยะยาว ควรตรวจสอบประเภทปูนกาวก่อนใช้งานทุกครั้ง

 

4. ไม่ควรผสมปูนกาวทิ้งไว้นานเกินเวลาที่กำหนด

ปูนกาวมีระยะเวลาการใช้งานหลังผสม (Pot Life) หากผสมทิ้งไว้นานเกินไป ปูนจะเริ่มแข็งตัวและสูญเสียคุณสมบัติการยึดเกาะ แม้จะเติมน้ำเพิ่มก็ไม่สามารถทำให้กลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรผสมทีละปริมาณพอเหมาะกับงานที่ทำ

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปูนกาว

คำถาม 1 : ใช้ปูนกาวแทนปูนซีเมนต์ได้ไหม

ตอบ :  ได้ และในหลายกรณีถือว่า เหมาะสมกว่าปูนซีเมนต์ทั่วไป โดยเฉพาะงานปูกระเบื้อง ปูนกาวถูกออกแบบมาให้มีแรงยึดเกาะสูง ยึดกระเบื้องกับพื้นหรือผนังได้แน่นกว่า ลดปัญหากระเบื้องหลุดร่อนหรือดีดตัว
เหมาะอย่างยิ่งกับ กระเบื้องแกรนิตโต้ กระเบื้องแผ่นใหญ่ หรือกระเบื้องดูดซึมน้ำต่ำ ซึ่งปูนซีเมนต์ธรรมดาอาจยึดเกาะได้ไม่ดีเท่าปูนกาว


คำถาม 2 : ปูนกาวปูทับกระเบื้องเก่าได้ไหม

ตอบ :  สามารถทำได้ แต่ต้องมีเงื่อนไขที่เหมาะสมก่อนใช้งาน พื้นหรือผนังกระเบื้องเดิมต้อง แข็งแรง ไม่หลุด ไม่แตกร้าว และไม่มีโพรงอากาศ รวมถึงควรทำความสะอาดคราบมัน ฝุ่น หรือสารเคลือบผิวออกให้หมด
ที่สำคัญ ควรเลือก ปูนกาวชนิดที่ออกแบบมาสำหรับงานปูทับกระเบื้องเดิมโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้แรงยึดเกาะที่เพียงพอและปลอดภัยในระยะยาว


คำถาม 3 : ใช้ปูนกาวปรับระดับพื้นได้ไหม

ตอบ :  ไม่เหมาะสม ปูนกาวถูกออกแบบมาเพื่อยึดกระเบื้อง ไม่ใช่สำหรับการปรับระดับพื้น หากนำมาใช้ปรับระดับหนา ๆ จะทำให้แรงยึดเกาะลดลง และมีโอกาสแตกร้าวหรือหลุดร่อนในอนาคต
วิธีที่ถูกต้องคือ ปรับพื้นให้เรียบด้วยปูนปรับระดับหรือปูนทราย ก่อน จากนั้นจึงใช้ปูนกาวสำหรับงานปูกระเบื้อง

 

คำถาม 4 : ปูนกาวกันซึมได้ไหม

ตอบ :  ปูนกาว ไม่ใช่วัสดุกันซึม แม้บางชนิดจะทนความชื้นได้ดี แต่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันการซึมของน้ำ ในพื้นที่เปียก เช่น ห้องน้ำ ระเบียง หรือพื้นที่ภายนอก ควรใช้ ระบบกันซึมโดยเฉพาะ ก่อนปูกระเบื้อง แล้วจึงใช้ปูนกาวเป็นวัสดุยึดกระเบื้อง เพื่อป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมในระยะยาว

 

คำถาม 5 : ใช้ปูนกาวผิดประเภทได้ไหม

ตอบ : ไม่แนะนำ ปูนกาวแต่ละประเภทถูกออกแบบมาให้เหมาะกับกระเบื้องและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน หากใช้ผิดประเภท เช่น ใช้ปูนกาวทั่วไปกับกระเบื้องแผ่นใหญ่หรือพื้นที่ภายนอก อาจทำให้แรงยึดเกาะไม่เพียงพอ ส่งผลให้งานเสียหาย กระเบื้องหลุดร่อน หรือแตกร้าวได้ในอนาคต การเลือกปูนกาวให้ถูกประเภทตั้งแต่ต้น จะช่วยให้งานปูแข็งแรง สวยงาม และใช้งานได้ยาวนาน



ปูนกาวคือหัวใจของงานปูกระเบื้องยุคใหม่ การเลือกปูนกาวให้เหมาะกับชนิดกระเบื้องและพื้นที่ใช้งาน จะช่วยให้งานติดแน่น สวยงาม และใช้งานได้ยาวนานโดยไม่ต้องแก้ปัญหาซ้ำ เลือกถูกตั้งแต่แรก งานจบสวย และสบายใจในระยะยาว หากท่านใดที่ต้องการซื้อปูนกาวเพื่อใช้ในงานปูกระเบื้อง สามารถเลือกชมสินค้าได้ง่าย ๆ ที่ https://www.thaisoung.com/tile-adhesive 

 



สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

qr_line_thaisoung
line_thaisoung
facebook_thaisoung
instagram_thaisoung
tiktok_thaisoung

tel:0 2138 8911

telephone_thaisoung
Thaisoung_writer

THAI SOUNG WRITER

เชี่ยวชาญเรื่องกระเบื้องปูพื้นและบุผนังมามากกว่า 22 ปี เราพร้อมมุ่งมั่นมอบความรู้และเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระเบื้องทุกประเภท เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถเลือกใช้กระเบื้องที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณด้วยมาตรฐานและคุณภาพสูงสุด

select * from tz_product_master where PDM_CODE in () && PDM_SHOW='Y' && PDM_PIC_FRIST!='' |

บทความล่าสุด

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระเบื้อง ฟรี!
แนะนำครบทุกเรื่อง ตั้งแต่ดีไซน์จนถึงการใช้งาน ที่ตรงกับความต้องการของคุณ ติดต่อ ไทย สุง

color photo black and white
Before
After

ส่งข้อความสำเร็จ

กรุณารอการตอบกลับ