ค้นหา

Tips&Ideas


การปรับระดับพื้นก่อนปูกระเบื้องที่ถูกต้องมีขั้นตอนยังไง ?

เผยแพร่เมื่อ 03 ตุลาคม 2568 • อัพเดทเมื่อ 03 ตุลาคม 2568

วิธีปรับระดับพื้นก่อนปูกระเบื้องให้เรียบเสมอทุกตารางนิ้ว

ถ้าอยากปูพื้นกระเบื้องให้สวย เรียบ เสมอกันไปทุกตารางเมตร การ “ปรับระดับพื้น” คือขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเลือกกระเบื้องที่พรีเมียมขนาดไหน แต่ถ้าพื้นเดิมไม่เรียบ ไม่เสมอ หรือมีความลาดเอียงผิดจากที่ควร ก็อาจเกิดปัญหาตามมาในระยะยาวได้ ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายทีละขั้นตอนของการปรับระดับพื้นอย่างถูกต้อง พร้อมเทคนิคที่ใช้ได้ทั้งพื้นปูน พื้นคอนกรีต พื้นกระเบื้องเก่า ไปจนถึงพื้นโครงสร้างไม้ เพื่อให้งานปูกระเบื้องของคุณสวย เนี้ยบ และอยู่ทนไปอีกนาน

ทำไมการปรับระดับพื้นถึงสำคัญ ?

การปรับระดับพื้นก่อนปูกระเบื้องไม่ใช่แค่เรื่องของเทคนิค แต่คือหัวใจสำคัญของงานที่มีคุณภาพ เพราะหากมองข้ามขั้นตอนนี้ไป อาจเกิดปัญหาที่ต้องแก้ในภายหลัง ทำให้ต้องเสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน โดยปัญหาหลักที่เกิดจากการปรับระดับกระเบื้องไม่ดีมีดังนี้ 

  • กระเบื้องแตกร้าว : เมื่อพื้นไม่เรียบ จะเกิดช่องว่างหรือโพรงอากาศใต้แผ่นกระเบื้อง เมื่อเราเดินย่ำลงบนบริเวณนั้นบ่อย ๆ หรือมีของหนักตกกระแทก กระเบื้องที่ไม่มีพื้นรองรับเต็มแผ่นก็จะเกิดการยุบตัวและแตกร้าวได้ง่าย 
  • กระเบื้องโก่งตัว : ปัญหานี้มักเกิดจากการที่ช่างพยายามแก้ปัญหาพื้นไม่เรียบด้วยการ “เสริมปูนกาว” ให้หนาเตอะเฉพาะจุด (ที่เรียกกันว่าปูแบบซาลาเปา) ซึ่งเมื่อปูนกาวแห้งตัวไม่สม่ำเสมอ จะเกิดแรงดึงรั้งที่ไม่เท่ากัน ทำให้กระเบื้องเกิดการโก่งตัวหรือที่ช่างเรียกกันว่า “กระเบื้องระเบิด” ในเวลาต่อมา
  • เสียงกลวงเมื่อเดิน : โพรงอากาศใต้กระเบื้องที่เกิดจากพื้นไม่เรียบ ทำให้เวลาเดินหรือเคาะจะเกิดเสียงกลวง ๆ เหมือนพื้นไม่แน่น โดยนอกจากจะสร้างความรำคาญแล้ว ยังเป็นสัญญาณเตือนว่ากระเบื้องบริเวณนั้นเสี่ยงต่อการแตกร้าวในอนาคต
  • การสะสมของน้ำ : ในพื้นที่เปียกอย่างห้องน้ำหรือระเบียง หากพื้นไม่ได้ระดับหรือไม่มีความลาดเอียงที่เหมาะสม น้ำจะขังอยู่ตามแอ่งหรือจุดที่ต่ำกว่า ทำให้เกิดคราบสกปรก เชื้อรา และอาจซึมลงไปทำลายโครงสร้างพื้นเดิมได้
  • ดูไม่สวยงาม : ท้ายที่สุด หากพื้นกระเบื้องดูไม่เรียบเสมอกัน จะฟ้องตัวเองผ่านแสงและเงาที่ตกกระทบ โดยจะเห็นเป็นคลื่น เป็นลอน ขอบกระเบื้องบางแผ่นสูงกว่าอีกแผ่น ทำให้ความสวยงามของกระเบื้องลดลง

ขั้นตอนการปรับระดับพื้นก่อนปูกระเบื้อง

1. ตรวจสอบสภาพพื้นเดิมก่อนเริ่มงาน

ก่อนเริ่มลงมือปรับระดับพื้น ต้องสำรวจหน้างานให้ละเอียดเสียก่อน โดยมีเช็กลิสต์ที่ต้องทำดังนี้ 

  • สำรวจว่าพื้นเดิมเป็นพื้นคอนกรีตขัดมัน พื้นปูนเปลือย หรือพื้นกระเบื้องเก่า 
  • ค้นหาว่ามีรอยแตกร้าว หลุมบ่อ หรือความลาดเอียงผิดปกติหรือไม่ 
  • ตรวจสอบ “ระดับ” ของพื้นทั้งหมด โดยใช้เครื่องมืออย่างไม้สามเหลี่ยมวัดระดับ (Leveling Bar) หรือ เครื่องวัดระดับเลเซอร์ (Laser Level) เพื่อหาจุดที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดของห้อง ซึ่งข้อมูลนี้จะนำไปสู่การเลือกเทคนิคการปรับระดับที่เหมาะสมต่อไป

2. เลือกเทคนิคปรับระดับให้เหมาะกับพื้น

การปรับระดับพื้นก่อนปูกระเบื้องมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความหนาที่ต้องการปรับและสภาพของพื้นเดิม

  • การใช้ปูนทราย (Mortar Screed) : เป็นวิธีดั้งเดิม เหมาะสำหรับการปรับระดับที่ต้องการความหนามาก ๆ (ตั้งแต่ 3-5 ซม. ขึ้นไป) โดยช่างจะทำการขึงเอ็นหรือตั้งระดับเพื่อเป็นไกด์ แล้วเทปูนทรายผสมน้ำในอัตราส่วนที่เหมาะสม ปาดให้ได้ระดับตามที่ต้องการ วิธีนี้ต้องอาศัยความชำนาญของช่างสูง และใช้เวลาในการแห้งตัวนาน
  • การใช้ปูนปรับระดับสำเร็จรูป (Self-Leveling Compound) : วิธีปรับระดับพื้นที่ทันสมัยและกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ตอบโจทย์การปรับระดับที่ไม่หนามาก (ไม่เกิน 1-3 ซม.) ปูนชนิดนี้จะมีส่วนผสมพิเศษที่ทำให้เนื้อปูนไหลตัวได้ดีและปรับระดับด้วยตัวเองได้อย่างเรียบเนียน แค่เทลงบนพื้นแล้วใช้เกรียงหรือลูกกลิ้งหนามช่วยไล่ฟองอากาศเล็กน้อย เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความรวดเร็วและแม่นยำสูง

3. เตรียมพื้นผิวให้พร้อมก่อนเทหรือปาด

ห้ามละเลยขั้นตอนนี้เด็ดขาด เพราะพื้นผิวที่สะอาดจะช่วยให้ปูนปรับระดับยึดเกาะกับพื้นเดิมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • ทำความสะอาด : กวาด ดูดฝุ่น และขจัดคราบสกปรก คราบน้ำมัน หรือสีที่เคลือบผิวอยู่ออกให้หมดจด หากเป็นพื้นคอนกรีตขัดมัน อาจต้องมีการสกัดผิวหน้าให้หยาบเล็กน้อยเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ
  • ซ่อมแซมรอยแตก : หากมีรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ ควรซ่อมแซมด้วยวัสดุอุดโป๊วสำหรับคอนกรีตเสียก่อน
  • ลงน้ำยาประสานคอนกรีต (Primer) : ก่อนเทปูนปรับระดับพื้น โดยเฉพาะปูน Self-Leveling ต้องทาน้ำยาไพรเมอร์ก่อนเสมอ โดยไพรเมอร์จะทำหน้าที่เป็นกาวใจ ช่วยประสานการยึดเกาะระหว่างพื้นเก่ากับปูนใหม่ และยังช่วยป้องกันไม่ให้พื้นเดิมดูดน้ำจากปูนเร็วเกินไป ซึ่งอาจทำให้ปูนแตกร้าวได้

4. ลงมือปรับระดับตามเทคนิคที่เลือก

เมื่อเตรียมพื้นผิวเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือปรับระดับพื้นตามแผนที่วางไว้ 

  • หากใช้ปูนทราย ก็ทำการผสมและปาดตามแนวเอ็นที่ขึงไว้ 
  • หากใช้ปูน Self-Leveling สามารถผสมตามอัตราส่วนที่ผู้ผลิตแนะนำ แล้วเทจากด้านในสุดของห้องออกมาด้านนอก จากนั้นใช้เกรียงช่วยเกลี่ยในจุดที่เข้าถึงยาก และใช้ลูกกลิ้งหนามไล่ฟองอากาศเพื่อให้ผิวหน้าเรียบเนียนที่สุด

ช่างกำลังใช้ลูกกลิ้งเพื่อปรับระดับพื้นก่อนปูกระเบื้อง

5. เช็กความเรียบด้วยเครื่องมือวัดระดับ

หลังจากเทหรือปาดปูนเสร็จแล้ว ต้องทำการตรวจสอบระดับอีกครั้งในขณะที่ปูนยังไม่เซตตัว โดยใช้ไม้สามเหลี่ยมวัดระดับวางทาบลงบนพื้นในหลาย ๆ ทิศทาง หรือใช้เครื่องวัดระดับเลเซอร์ฉายเช็กแนวระนาบ โดยหากพบจุดที่ยังไม่ได้ระดับ ต้องรีบแก้ไขทันที

6. ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทก่อนเริ่มปูกระเบื้อง

ปล่อยให้พื้นปูนปรับระดับแห้งและเซตตัวอย่างสมบูรณ์ ซึ่งระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับชนิดของปูน ความหนา และสภาพอากาศ โดยทั่วไปจะอยู่ในเกณฑ์ดังนี้ 

  • ปูน Self-Leveling : อาจใช้เวลา 24-48 ชั่วโมง
  • ปูนทราย : อาจใช้เวลานานถึง 7-14 วัน หรือมากกว่านั้น

ถ้าปูทับในขณะที่พื้นยังไม่แห้งสนิท ความชื้นที่ระเหยขึ้นมาจะส่งผลต่อการยึดเกาะของปูนกาว และอาจทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • สำหรับกระเบื้องแผ่นใหญ่ : หากเลือกกระเบื้องขนาดใหญ่ เช่น 60x60 ซม. ขึ้นไป การปรับระดับพื้นก่อนปูกระเบื้องต้องแม่นยำเป็นพิเศษ เพราะยิ่งกระเบื้องแผ่นใหญ่ก็จะยิ่งได้รับผลกระทบจากความไม่เรียบของพื้น โดยหากพื้นไม่เสมอจริง ๆ โอกาสที่จะเกิดการ “สะดุดขอบ” หรือที่เรียกว่า Lippage มีสูงมาก ทำให้พื้นไม่สวยงามและเป็นอันตรายได้
  • สำหรับพื้นที่เปียก : ไม่ว่าจะในห้องน้ำ โซนอาบน้ำ หรือระเบียง นอกจากจะต้องปรับระดับพื้นให้เรียบแล้ว ยังต้องทำ "สโลป (Slope)" หรือความลาดเอียงให้พื้นเทไปยังตำแหน่งของท่อระบายน้ำ (Floor Drain) ด้วย เพื่อป้องกันปัญหาน้ำขัง
  • สำหรับกระเบื้องยาง SPC แบบคลิกล็อก (SPC Click Lock): วัสดุประเภทนี้เป็นระบบการปูแบบลอยตัว (Floating System) ไม่ได้ยึดติดกับพื้นด้วยปูนกาว การเตรียมพื้นจะมีความแตกต่างออกไป โดยหัวใจสำคัญจะอยู่ที่ “ความเรียบ (Flatness)” มากกว่า “ความได้ระดับ (Levelness)” ที่สมบูรณ์แบบ หมายความว่า พื้นไม่จำเป็นต้องอยู่ในระนาบเดียวกันเป๊ะ ๆ แต่ต้องไม่มีหลุมบ่อ สันนูน หรือพื้นผิวขรุขระเป็นคลื่น เพราะจะทำให้ระบบคลิกล็อกเกิดความเสียหายเมื่อใช้งานในระยะยาว ดังนั้น การเตรียมพื้นสำหรับกระเบื้อง SPC จึงมักเป็นการซ่อมแซมรอยแตก รอยบิ่น และอาจใช้ปูนปรับระดับแบบบาง (Skim Coat) เพื่อให้ผิวหน้าเรียบเนียนเท่านั้น ซึ่งไม่ซับซ้อนและใช้เวลาน้อยกว่าการเตรียมพื้นสำหรับกระเบื้องเซรามิกอย่างมาก

การปรับระดับพื้นคือก้าวแรกสำคัญในการเตรียมพื้นที่ให้พร้อมสำหรับการปูกระเบื้องอย่างมีคุณภาพ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “การเลือกใช้กระเบื้องที่ได้มาตรฐาน” เพราะต่อให้พื้นเรียบแค่ไหน หากกระเบื้องไม่ได้คุณภาพ ก็อาจเกิดปัญหาการใช้งานตามมาได้ในระยะยาว โดยที่ ไทย สุง เราคัดสรรกระเบื้องคุณภาพสูง หลากหลายประเภท ทั้งกระเบื้องแกรนิตโต้ กระเบื้องพอร์ซเลน กระเบื้องลายไม้ ไปจนถึง กระเบื้องยาง SPC แบบคลิกล็อก ที่ตอบโจทย์ทั้งความทนทาน ดีไซน์ และการติดตั้งที่ง่ายดาย

เลือกชมกระเบื้องคุณภาพได้ทั้งในเว็บไซต์และที่โชว์รูม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ Hotline : 0 2138 8911 และ 0 2138 8912 หรือ Add LINE Official Account: @thaisoungtiles

แหล่งอ้างอิง

  1. How to get a floor ready for tiling. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 จาก https://www.tilewarehouse.co.uk/help-advice/how-to-prepare-a-floor-for-tiling/?srsltid=AfmBOorch6Vb27BMA6CWI93SRayqCNmSaMaUXZhe-anYL3MnL6k8xvG6

การปรับระดับพื้นก่อนปูกระเบื้องที่ถูกต้องมีขั้นตอนยังไง-?1

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

qr_line_thaisoung
line_thaisoung
facebook_thaisoung
instagram_thaisoung
tiktok_thaisoung

tel:0 2138 8911

telephone_thaisoung
Thaisoung_writer

THAI SOUNG WRITER

เชี่ยวชาญเรื่องกระเบื้องปูพื้นและบุผนังมามากกว่า 22 ปี เราพร้อมมุ่งมั่นมอบความรู้และเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระเบื้องทุกประเภท เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถเลือกใช้กระเบื้องที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณด้วยมาตรฐานและคุณภาพสูงสุด

select * from tz_product_master where PDM_CODE in () && PDM_SHOW='Y' && PDM_PIC_FRIST!='' |

บทความ ล่าสุด

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระเบื้อง ฟรี!
แนะนำครบทุกเรื่อง ตั้งแต่ดีไซน์จนถึงการใช้งาน ที่ตรงกับความต้องการของคุณ ติดต่อ ไทย สุง

color photo black and white
Before
After

ส่งข้อความสำเร็จ

กรุณารอการตอบกลับ