ค้นหา
Tips&Ideas
ความชื้นจากพื้นดิน หรือพื้นปูนที่ทำให้พื้นชื้น พื้นแฉะ เป็นหนึ่งในปัญหาที่เจ้าของบ้านหลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะในบ้านที่สร้างบนดินที่อุ้มน้ำสูง ซึ่งความชื้นไม่เพียงส่งผลต่อความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่ปัญหาเชื้อรา กลิ่นอับ การลอกล่อนของวัสดุปูพื้น หรือแม้แต่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ที่นำไปตกแต่งภายนอก ต้องเสียหายในระยะยาว
การเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะความชื้นที่สะสมมักไม่ได้เกิดจากปัจจัยเดียว แต่อาจเป็นผลรวมของโครงสร้างบ้าน พื้นที่ก่อสร้าง และสภาพแวดล้อมโดยรอบ ซึ่งสาเหตุหลักที่พบได้บ่อย มีดังนี้
บริเวณที่มีลักษณะเป็นพื้นที่ลุ่ม หรือดินเหนียวที่มีความสามารถในการระบายน้ำต่ำ มักจะมีความชื้นสะสมสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ความชื้นจากดินสามารถซึมผ่านขึ้นมายังพื้นคอนกรีตได้ แม้จะผ่านการเทปูนมาแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน หรือหลังฝนตกหนัก พื้นที่ในลักษณะนี้จะยิ่งมีโอกาสเกิดปัญหาความชื้นสะสมแบบต่อเนื่อง จนเกิดอาการพื้นแฉะ หรือเย็นชื้นตลอดเวลา
วัสดุกันชื้นหรือ Moisture Barrier คือหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการสร้างบ้านที่หลายคนมักมองข้าม แต่หากไม่มีการวางแผ่นกันชื้น หรือเคลือบพื้นก่อนเทคอนกรีต ความชื้นจากใต้ดินจะสามารถซึมผ่านขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นชื้นอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเลือกปูพื้นด้วยวัสดุชนิดใดก็ตาม ซึ่งจะส่งผลเสียต่อทั้งโครงสร้างบ้านและสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว
โดยสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนปูพื้น SPC สำหรับพื้นที่ในบ้าน ทาง ไทย สุงฯ มีบริการตรวจวัดความชื้นด้วยเครื่องมือมาตรฐานสากลก่อนติดตั้งทุกครั้ง หากพบค่าความชื้นที่เกินกว่ากำหนด ทีมงานจะร่วมมือกับผู้รับเหมาวิเคราะห์สาเหตุและวางแผนการแก้ไขให้ตรงจุด เพื่อป้องกันปัญหา “ความชื้นดัน” ตามรอยต่อของแผ่น SPC ซึ่งเป็นปัญหาพบบ่อยในบ้านที่ไม่ได้มีการตรวจสอบความชื้นอย่างรอบคอบ
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้พื้นเกิดความชื้น คือปรากฏการณ์ Condensation หรือการควบแน่นของไอน้ำ ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงหน้าฝน โดยความแตกต่างของอุณหภูมิจะทำให้ไอน้ำในอากาศเปลี่ยนสถานะเป็นหยดน้ำ และเกาะตัวบนพื้น ทำให้พื้นดูเหมือนชื้นตลอดเวลา แม้ไม่มีการรั่วซึม หรือความชื้นจากดิน
หากบ้านมีท่อประปา ระบบน้ำ หรือระบบระบายน้ำที่วางอยู่ใต้พื้น และเกิดการรั่วซึม แม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้ความชื้นสะสมอยู่ใต้พื้นตลอดเวลาได้โดยไม่รู้ตัว อีกทั้งการเทคอนกรีต หรือการติดตั้งพื้นอย่างไม่แน่นหนา เช่น พื้นมีโพรง รอยต่อไม่สนิท ก็อาจเป็นช่องทางให้ความชื้นแทรกซึมขึ้นมาบนพื้นได้เช่นกัน ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้พื้นพอง บวม จนวัสดุปูพื้นเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร
เมื่อเข้าใจถึงต้นตอของปัญหาความชื้นจากพื้นดินและพื้นปูนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมกับสภาพบ้านและระดับความรุนแรง โดยมีวิธีแก้ปัญหาความชื้นจากพื้นดินและจากพื้นปูน ดังนี้
สำหรับบ้านที่มีปัญหาความชื้นไม่มาก การใช้วัสดุกันซึมแบบเคลือบพื้น เช่น น้ำยาทากันซึม หรือสีเคลือบกันความชื้น เป็นทางเลือกที่สะดวกและคุ้มค่า เพราะวัสดุกันซึมเหล่านี้สามารถเคลือบพื้นผิวคอนกรีตเพื่อสร้างชั้นฟิล์มกันความชื้นซึมจากพื้นด้านล่างได้ แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและเหมาะสำหรับใช้งานภายนอก หรือในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เพื่อให้สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมในระยะยาว
ในกรณีที่ความชื้นขึ้นมามาก หรือเกิดความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นเดิม การรื้อพื้นเพื่อทำระบบกันความชื้นอย่างเต็มรูปแบบเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยจะมีการปูแผ่น Moisture Barrier (เช่น แผ่นพลาสติก HDPE หรือเมมเบรนกันซึมชนิดพิเศษ) ระหว่างดินกับชั้นพื้นโครงสร้าง และต้องมีการซีลรอยต่อให้สนิททั่วทั้งบริเวณ เพื่อป้องกันการรั่วซึมในอนาคต
รอยร้าวแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถเป็นช่องทางให้ความชื้นแทรกซึมขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบรอยแตก ควรรีบใช้ซีลแลนท์กันซึม หรือปูนซ่อมแซมเฉพาะทางในการอุดรอยดังกล่าวอย่างถูกวิธี และในกรณีที่รอยร้าวเกิดจากโครงสร้างพื้นทรุดหรือมีการเทปูนไม่เต็ม ควรปรึกษาวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนซ่อมแซมให้ตรงจุด
บางครั้งความชื้นจากพื้นที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะจากตัวบ้านเท่านั้น แต่เกิดจากสภาพแวดล้อมรอบบ้านที่ไม่สามารถระบายน้ำได้ดี เช่น มีน้ำขังรอบบ้าน หรือไม่มีระบบระบายน้ำที่เหมาะสม การปรับความสูงของพื้นรอบบ้านให้ลาดเอียงออกจากตัวอาคาร การขุดร่องน้ำ หรือการติดตั้งท่อระบายน้ำใต้ดิน จะช่วยลดการสะสมของน้ำใต้พื้นบ้านได้ ทั้งยังช่วยลดโอกาสเกิดความชื้นซึมขึ้นมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากการจัดการโครงสร้างแล้ว การเลือกวัสดุปูพื้นที่มีคุณสมบัติกันชื้น หรือทนต่อความชื้นได้ดี ก็ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาวได้เช่นกัน เช่น การเลือกใช้กระเบื้องภายนอกที่สามารถทนกับสภาพอากาศที่หลากหลาย ทั้งแสงแดดแผดเผา ไปจนถึงพายุฝน รวมถึงความชื้นที่ทำให้พื้นแฉะ โดยกระเบื้องภายนอกที่ดีจะต้องมีความคงทนต่อสภาพอากาศและยังคงรักษาคุณสมบัติกันลื่นได้อย่างยาวนาน
เลือกแก้ปัญหาพื้นชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว ด้วยการปรับปรุงระบบกันซึมและเลือกวัสดุที่ทนทานต่อความชื้นอย่างถูกต้อง ขอแนะนำกระเบื้องภายนอก จาก ไทย สุงฯ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับสภาพแวดล้อมที่ต้องเจอกับน้ำหรือความชื้นโดยตรง เช่น บริเวณเฉลียง หน้าบ้าน ทางเดินรอบตัวบ้าน หรือแม้กระทั่งพื้นที่ในบ้านที่ติดพื้นดิน โดยมีผิวสัมผัสหยาบเพื่อการยึดเกาะที่ดี ต้านทานการลื่น ช่วยเสริมความปลอดภัย พร้อมมีลายกระเบื้องปูพื้นหน้าบ้านให้เลือกสรรมากมาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ นอกจากนั้น ยังมีบริการให้คำปรึกษาและออกแบบที่จะช่วยให้ทุกการตัดสินใจง่ายและตอบโจทย์ยิ่งขึ้น
สามารถเลือกชมได้ทั้งในเว็บไซต์และที่โชว์รูม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ Hotline : 0 2138 8911-16 (อัตโนมัติ 6 คู่สาย) หรือ Add LINE Official Account: @thaisoung
แหล่งอ้างอิง