ค้นหา

Tips&Ideas


กระเบื้องห้องครัวโดนแดดแรง เลือกแบบไหนให้ทนร้อนและสีไม่ซีด

เผยแพร่เมื่อ 11 ธันวาคม 2568 • อัพเดทเมื่อ 15 ธันวาคม 2568

ห้องครัวโดนแดดทั้งวัน เลือก กระเบื้องห้องครัว แบบไหนดี? คู่มือเลือกให้ทนร้อน สีไม่ซีด และใช้งานได้ยาวนาน ห้องครัวที่โดนแดดแรงทั้งวันเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ต้องเลือก กระเบื้องห้องครัว อย่างพิถีพิถันที่สุด เพราะแสงแดดของบ้านไทยสามารถทำให้ ผิวกระเบื้องซีด สีดรอป ผิวร้อน และเกิดความเสียหายเร็วกว่าปกติ หากเลือกวัสดุหรือผิวกระเบื้องไม่เหมาะสม

บทความนี้จะเป็นคู่มือแบบครบจบ ตั้งแต่เลือกวัสดุ เลือกสี เลือกผิว ไปจนถึงการติดตั้งสำหรับครัวที่โดนแดดจัดโดยเฉพาะ

 

กระเบื้องห้องครัวสีฟ้า



1. ทำไม “กระเบื้องห้องครัว” สำหรับครัวโดนแดดต้องเลือกให้เหมาะ?

ห้องครัวที่โดนแดดจัดทั้งวันจะเผชิญทั้ง ความร้อนสูง, แสง UV, ไอน้ำ, น้ำมัน, และ คราบอาหาร มากกว่าพื้นที่อื่นในบ้าน ทำให้ กระเบื้องห้องครัว ที่ใช้ต้องมีคุณสมบัติพิเศษกว่ากระเบื้องทั่วไป ไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร

  • ความร้อนสะสมจากแดดตลอดวัน

ครัวที่โดนแดดตรง ๆ โดยเฉพาะตอนบ่าย จะทำให้กระเบื้องพื้นและผนังร้อนจัดเป็นเวลานาน วัสดุที่ไม่ทนความร้อนมากพออาจเกิดปัญหา เช่น ผิวซีดหรือไหม้จากความร้อน, เกิดการขยายตัวมากจนแผ่นโก่งหรือแตก, และผิวกระเบื้องร้อนจนส่งผลต่ออุณหภูมิในห้อง เป็นต้น ดังนั้นกระเบื้องห้องครัว ต้องมีค่าทนความร้อนสูงและโครงสร้างเนื้อแน่น เช่น พอร์ซเลนหรือพอร์ซเลนเนื้อเต็ม

  • ไอน้ำจากการทำอาหาร

พื้นที่ครัวมีความชื้นสูงจากการต้มน้ำ ล้างจาน รวมถึงไอน้ำร้อนที่เกิดจากการประกอบอาหาร นอกจากนี้ครัวไทยยังมี คราบน้ำมัน กระเด็นจากการทอดหรือผัด อยู่เสมอ ถ้าใช้กระเบื้องคุณภาพต่ำหรือไม่เหมาะสม จะเกิดผลกระทบ เช่น ผิวลื่นมากเมื่อโดนไขมัน, คราบเกาะแน่น ทำความสะอาดยาก, ผิวกระเบื้องขึ้นคราบด้าน / ด่าง และกรณีเป็นกระเบื้องดูดซึมน้ำง่าย – อาจทำให้ผิวบวม เสื่อม หรือแตกลายงา จึงต้องเลือกกระเบื้องห้องครัว ที่มีค่ากันลื่นเหมาะสม (R10) และผิวทนคราบ

  • แสงแดดแรงและรังสี UV

รังสี UV สามารถทำลายชั้นเคลือบหรือผิวหน้ากระเบื้องได้ ทำให้ สีซีดลง, ลวดลายดรอป, หรือจางไม่สม่ำเสมอ ผิวเงาเปลี่ยนเป็นด้าน กระเบื้องเกิดความเปราะเร็วขึ้นในระยะยาว แสงแดดสามารถสร้างความเสียหายได้แม้เป็นช่วงสั้น ๆ แต่ถ้าเป็นครัวที่โดนแดดทั้งวัน ยิ่งต้องเลือก กระเบื้องห้องครัวที่มีการเคลือบกัน UV หรือใช้เนื้อพอร์ซเลน ที่คงสภาพได้ดีแม้โดนแดดจัด

 

2. ประเภท “กระเบื้องห้องครัว” ที่เหมาะกับครัวโดนแดด

  • พอร์ซเลน (Porcelain Tiles)  เป็นตัวเลือกดีที่สุด

เพราะคือ กระเบื้องห้องครัว ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานเป็นพิเศษ เพราะกระเบื้องพอร์ซเลนมีคุณสมบัติทน UV ทำให้สีไม่ซีดง่าย ไม่เป็นรอยง่าย ดูดซึมน้ำน้อย เหมาะกับครัวที่โดนแดดทั้งวัน

  • พอร์ซเลนเนื้อเต็ม (Full-Body Porcelain)

เป็น กระเบื้องห้องครัวระดับพรีเมียม เพราะสีและลายในเนื้อเหมือนกันทั้งแผ่น เหมาะมากกับห้องครัวที่แดดแรงทุกวัน

  • กระเบื้องเซรามิกเคลือบคุณภาพ (Glazed Ceramic)

เหมาะสำหรับคนที่ต้องการงบคุ้มค่า โดยเลือกแบรนด์ที่มีชั้นเคลือบทน UV  ใช้เป็นกระเบื้องห้องครัวบนผนัง ได้ดีมาก

  • กระเบื้องยาง SPC (ใช้เฉพาะบางโซน)

แม้จะดูแลง่าย แต่ไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับครัวที่แดดลงตรง ๆ เหมาะกับครัวในบ้านที่ไม่เจอแดดแรง ๆ

 

3. ผิวกระเบื้องที่เหมาะกับครัวแดดแรง

เวลาจะเลือก กระเบื้องห้องครัว ที่ต้องเจอทั้งความร้อนจากการใช้งานและแสงแดดที่ส่องเข้ามาตลอดวัน “ผิวกระเบื้อง” เป็นรายละเอียดที่สำคัญมาก เพราะส่งผลทั้งเรื่องอุณหภูมิ ความปลอดภัย และการดูแลรักษาในระยะยาว

ผิวด้าน (Matt Finish)

ผิวด้านถือว่าเหมาะที่สุดกับครัวที่โดนแดดแรง เพราะมีคุณสมบัติโดดเด่นหลายอย่าง ได้แก่

  • ไม่สะท้อนแสงจนแสบตา

ในครัวที่มีแดดจัด การใช้ผิวเงาอาจทำให้เกิดแสงสะท้อนมากจนรู้สึกแสบตา แต่ผิวด้านจะช่วยลดแสงสะท้อนได้ดี ทำให้ทำอาหารได้สบายขึ้น

  • ช่วยพรางคราบน้ำและคราบน้ำมัน

พื้นครัวมักมีคราบเล็ก ๆ จากน้ำมันหรือหยดน้ำ ผิวด้านจะช่วยให้มองเห็นคราบน้อยกว่าผิวเงา ทำให้ห้องครัวดูสะอาดง่ายขึ้น

  • คงความเย็นมากกว่า

ผิวด้านจะดูดซับความร้อนจากแดดน้อยกว่าผิวเงา จึงทำให้พื้นที่ครัวไม่ร้อนจนเกินไป เหมาะกับบ้านไทยที่แดดแรงทั้งวัน

 

เคลือบกัน UV (Anti-Fading / UV Resistant)

ถ้าห้องครัวโดนแดดครึ่งวัน–ทั้งวัน การเลือก กระเบื้องห้องครัวที่มีเคลือบป้องกัน UV เป็นสิ่งที่ควรใส่ใจอย่างมาก

  • ช่วยให้สีของกระเบื้อง ไม่ซีด ไม่ด่าง

  • ลวดลายไม่หลุดลอกหรือหมองลงเร็ว

  • ทำให้พื้นครัวดูใหม่และสวยนานหลายปี

เหมาะมากสำหรับกระเบื้องลายไม้ ลายหิน หรือลายสีอ่อนที่ต้องการให้โทนสีดูเป็นธรรมชาติยาวนาน

 

ผิวกันลื่น (Slip Resistance R10)

ในห้องครัวจะมีทั้งน้ำและน้ำมันเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นความปลอดภัยในการเดินต้องมาเป็นอันดับแรก

  • ค่า R10 คือระดับกันลื่นที่เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีโอกาสเปียกอยู่บ่อย

  • เดินแล้วมั่นคง ไม่ลื่นง่าย

  • ลดความเสี่ยงการล้ม โดยเฉพาะในบ้านที่มีผู้สูงอายุหรือเด็ก

การเลือกระดับกันลื่นที่เหมาะสมจะทำให้ห้องครัวใช้งานได้จริงทุกวัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอุบัติเหตุ

 

4) โทนสีและลาย “กระเบื้องห้องครัว” ที่ช่วยลดอุณหภูมิ

การเลือกสีและลวดลายของ กระเบื้องห้องครัว เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้พื้นที่ครัวที่โดนแดดแรงตลอดวัน “เย็นขึ้นจริง” เพราะสีของกระเบื้องมีผลโดยตรงต่อการดูดซับหรือสะท้อนความร้อน

 

โทนอ่อนสะท้อนแสงดี ช่วยลดความร้อนในครัว

เช่น สีครีม เทาอ่อน เบจ ขาวอมเทา หรือลายหินอ่อนโทนอ่อน เป็นต้น ซึ่งสีอ่อนมีคุณสมบัติช่วย สะท้อนแสงแดดได้ดี ทำให้อุณหภูมิพื้นและบรรยากาศในห้องครัวลดลงมากกว่าสีเข้ม เหมาะสำหรับบ้านที่ครัวหันทางทิศตะวันออกหรือตะวันตกซึ่งรับแดดเต็ม ๆ ข้อดีคือไม่ดูดซับความร้อนเท่าสีเข้ม เหยียบแล้วไม่ร้อนเท้า และช่วยทำให้พื้นที่ครัวดูกว้าง สว่าง และสะอาดขึ้นอีกด้วย

 

เลือกลายที่ไม่ซีดง่ายแม้โดนแดดทั้งวัน

สำหรับครัวที่โดนแดดตลอดวัน ควรเลือก ลวดลายกระเบื้องที่ทนแสง ไม่ซีดง่าย โดยเฉพาะลายที่มีโทนสีเป็นธรรมชาติ เพราะจะช่วยกลบรอยซีดหรือรอยด่างที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้งานหลายปี

 

ลวดลายที่เหมาะและทนแดดได้ดี

  • ลายหินธรรมชาติ (เช่น หินอ่อนอ่อน ๆ หรือหินทราย)

  • ลายซีเมนต์ (Cement Look)

  • ลายไม้โทนอ่อน

  • ลายมินิมอลแบบพื้นผิวละเอียด

ลวดลายเหล่านี้กลมกลืนกับความเปลี่ยนแปลงของสีตามเวลาและโดนแดดได้โดยที่ยังดูสวย ไม่หมองง่าย ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการปู กระเบื้องห้องครัว ในบ้านที่เจอแดดจัดเป็นประจำ

 

5) เทคนิคการติดตั้งให้กระเบื้องอยู่ทน ไม่โก่ง ไม่หลุดล่อน

นอกจากการเลือกวัสดุที่ดีแล้ว ขั้นตอนการติดตั้งก็มีผลอย่างมากต่ออายุการใช้งานของ กระเบื้องห้องครัว โดยเฉพาะในครัวที่รับแดดจัดทั้งวัน เพราะความร้อนมีผลต่อการขยายตัวของกระเบื้องและกาวยึดเกาะ ถ้าติดตั้งไม่ถูกต้อง กระเบื้องอาจโก่ง แตกร้าว หรือหลุดล่อนได้

ใช้กาวซีเมนต์ชนิดทนความร้อน (High Heat Tile Adhesive) ในห้องครัวที่โดนแดดจัด พื้นผิวมีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเร็ว

  • กาวซีเมนต์แบบทั่วไปอาจเสื่อมสภาพเร็วหรือยึดเกาะไม่แน่น

  • จึงควรเลือก “กาวซีเมนต์ทนความร้อน” ซึ่งออกแบบมาสำหรับพื้นที่ที่เจอความร้อนสูง

ข้อดีคือ

  • กระเบื้องยึดแน่น

  • ลดโอกาสหลุดล่อน

  • ใช้งานได้นานแม้โดนแดดทุกวัน

พื้นต้องเรียบเพื่อลดปัญหาแผ่นโก่งหรือแตกร้าว

พื้นฐานที่ไม่เรียบทำให้

  • กระเบื้องรับน้ำหนักไม่สม่ำเสมอ

  • เกิดช่องว่างใต้แผ่น ทำให้กระเบื้อง “โก่ง” หรือ “กระทบจนแตกร้าว”

การปรับพื้นให้เรียบก่อนติดตั้งช่วยให้

  • กระเบื้องแนบสนิท

  • อายุการใช้งานนานขึ้น

  • ปูแล้วสวยเป็นระนาบ

เว้นร่องยาแนวให้พอเหมาะ รองรับการขยายตัวของกระเบื้อง

กระเบื้องทุกชนิดมีการ “ขยายตัว” เมื่อเจอความร้อน โดยเฉพาะในครัวแดดแรง การเว้นร่องเหมาะสมช่วยให้กระเบื้องมีพื้นที่ขยับตามธรรมชาติ ทำให้ระบบพื้นมีเสถียรภาพมากขึ้น

  • ถ้าเว้นร่องน้อยเกินไป กระเบื้องอาจ ดันกันจนโก่งหรือแตก

  • ระยะร่องแนะนำโดยทั่วไปคือ 2–3 มม. (ขึ้นอยู่กับขนาดแผ่น)

 

เลือกยาแนวกันคราบ กันราดำ (Stain & Mold Resistant Grout)

ร่องยาแนวเป็นจุดที่เกิดคราบได้ง่ายที่สุดใน กระเบื้องห้องครัว

  • ไขมันและน้ำสามารถซึมลงร่องและทำให้เกิดราดำ

  • ความชื้นในครัวเร่งให้ราดำขึ้นเร็ว

การเลือกยาแนวชนิด

  • กันคราบ (Stain Resistance)

  • กันรา (Anti-Mold)

จะทำให้พื้นครัวดูสะอาดยาวนาน และดูแลรักษาง่ายกว่าแบบทั่วไปมาก

 

6) เคล็ดลับดูแลกระเบื้องห้องครัวให้สวยทนนาน

แม้กระเบื้องจะเป็นวัสดุที่ทนทานที่สุดชนิดหนึ่ง แต่ห้องครัวเป็นพื้นที่ที่มีทั้งคราบน้ำมัน ไอน้ำ ความร้อน และฝุ่นจากการทำอาหาร จึงต้องมีการดูแลอย่างเหมาะสมเพื่อให้ กระเบื้องห้องครัว ดูใหม่และใช้งานได้นานหลายปี

  • เช็ดคราบทันทีหลังใช้งาน

ครัวเป็นพื้นที่ที่มีคราบเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งน้ำมัน ซอส หรือน้ำจากการล้างผัก หากปล่อยทิ้งไว้นาน คราบจะ “เกาะผิว” หรือซึมเข้าร่องยาแนวโดยเฉพาะคราบน้ำมัน เมื่อเจอความร้อนและแดด จะยิ่งฝังแน่น การเช็ดทันทีช่วยให้ผิวกระเบื้องไม่ด่าง ไม่เป็นรอย และลดปัญหาเชื้อราในระยะยาว

  •  ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรกลาง ไม่กัดผิวกระเบื้อง

การเลือกน้ำยาทำความสะอาดสำคัญมาก ควรหลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีฤทธิ์กรดหรือด่างแรง (เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำหรือสารฟอกขาว) เพราะอาจทำลายผิวเคลือบ และหันไปใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนหรือสูตรสำหรับพื้นกระเบื้องโดยเฉพาะ จะช่วยให้ผิวของ กระเบื้องห้องครัว ไม่หมอง ไม่ด้าน และยังช่วยป้องกันการกัดเซาะร่องยาแนวด้วย

  • ตรวจสภาพยาแนวปีละครั้ง

ร่องยาแนวเป็นส่วนที่เสื่อมเร็วที่สุด เพราะเจอความร้อนบ่อย มีความชื้น และคราบน้ำมันสามารถซึมลงได้ ดังนั้นเราควรตรวจสภาพยาแนวปีละครั้ง ว่ามีรอยแตกร้าว หลุดร่อน และเป็นดำเกาะแน่น หากพบ ให้ซ่อมแซมหรือยาแนวใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นลงไปใต้แผ่นกระเบื้องซึ่งอาจทำให้กระเบื้องโก่งหรือหลุดล่อนได้

  • ใช้แผ่นรองเวลาเปิดเตาหรือเมื่อพื้นอาจร้อนจัด

แม้กระเบื้องจะทนความร้อนได้ดี แต่การรับความร้อนเฉพาะจุด เช่น เตาอบ หม้ออบลมร้อน หรือเตาปิ้งไฟฟ้าขนาดเล็ก อาจทำให้พื้นตรงจุดนั้นร้อนกว่าปกติมาก การใช้แผ่นรองหรือแผ่นกันความร้อนช่วยลดความเสี่ยงของ รอยไหม้ การเกิด รอยด่าง ซึ่งเป็นวิธีง่าย ๆ แต่ยืดอายุ กระเบื้องห้องครัว ได้จริง



จะเลือก กระเบื้องห้องครัว แบบไหนดีเมื่อครัวโดนแดดทั้งวัน เลือก กระเบื้องห้องครัวประเภทพอร์ซเลนผิวด้าน โทนสีอ่อน เคลือบกัน UV และมีค่ากันลื่น R10 จะช่วยให้ห้องครัวใช้งานได้ดีในบ้านไทยที่แดดแรงตลอดปี พร้อมทั้งลดปัญหาสีซีด ผิวร้อน และการดูแลรักษาที่ยุ่งยาก

 

สนใจรายละเอียดสอบถามได้ที่



สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

qr_line_thaisoung
line_thaisoung
facebook_thaisoung
instagram_thaisoung
tiktok_thaisoung

tel:0 2138 8911

telephone_thaisoung
Thaisoung_writer

THAI SOUNG WRITER

เชี่ยวชาญเรื่องกระเบื้องปูพื้นและบุผนังมามากกว่า 22 ปี เราพร้อมมุ่งมั่นมอบความรู้และเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระเบื้องทุกประเภท เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถเลือกใช้กระเบื้องที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณด้วยมาตรฐานและคุณภาพสูงสุด

select * from tz_product_master where PDM_CODE in () && PDM_SHOW='Y' && PDM_PIC_FRIST!='' |

บทความล่าสุด

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระเบื้อง ฟรี!
แนะนำครบทุกเรื่อง ตั้งแต่ดีไซน์จนถึงการใช้งาน ที่ตรงกับความต้องการของคุณ ติดต่อ ไทย สุง

color photo black and white
Before
After

ส่งข้อความสำเร็จ

กรุณารอการตอบกลับ