กระเบื้องยางคืออะไร? แล้วเลือกซื้อกระเบื้องแบบไหนที่จะเหมาะกับบ้านคุณ

กระเบื้องยาง คือ วัสดุปูพื้นที่ผลิตจากโพลีเมอร์สังเคราะห์ เช่น PVC หรือยางธรรมชาติ ถูกพัฒนาให้มีโครงสร้างหลายชั้น มีคุณสมบัติเด่นคือความยืดหยุ่นสูง กันน้ำ กันปลวก และติดตั้งง่าย มีหลากหลายประเภท เช่น LVT (Luxury Vinyl Tile) และ SPC (Stone Plastic Composite) ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน

กระเบื้องยางคืออะไร?

กระเบื้องยาง คือวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากมีคุณสมบัติที่โดดเด่นและตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีมาก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีการพัฒนาให้มีหลายประเภท เช่น LVT, WPC และ SPC ทำให้มีลักษณะเด่นคือความยืดหยุ่น เนื้อวัสดุมีความเหนียว กันลื่นได้ นอกจากนั้นยังทนต่อความชื้น ทนน้ำ ทนไฟ ทำความสะอาดได้และทนต่อรอยขีดข่วน ลักษณะเด่นทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของกระเบื้องยางด้วย 

คุณสมบัติของกระเบื้องยาง

1. ความทนทาน และความยืดหยุ่นสูง

• ทนทานต่อแรงกระแทก: ด้วยวัสดุที่มีความยืดหยุ่น (เช่น PVC, ยางธรรมชาติ หรือส่วนผสมโพลีเมอร์) ทำให้กระเบื้องยางทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี และไม่แตกหักง่ายเหมือนกระเบื้องเซรามิกหรือหิน

• ทนรอยขีดข่วน: มีชั้นปกป้องผิวหน้า (Wear Layer) ที่ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการขีดข่วนและการสึกหรอจากการใช้งานทั่วไป

• อายุการใช้งานยาวนาน: หากดูแลรักษาดี และเลือกใช้ประเภทที่เหมาะสม เช่น SPC หรือ LVT คุณภาพสูง อาจมีอายุการใช้งานได้นานถึง 10-15 ปี

2. คุณสมบัติป้องกันน้ำและความชื้น

• กันน้ำ 100%: กระเบื้องยางส่วนใหญ่ผลิตจากวัสดุที่ไม่ดูดซึมน้ำ ทำให้ไม่บวม พอง หรือโก่งตัวเมื่อสัมผัสความชื้นหรือน้ำ โดยเฉพาะประเภท SPC และ WPC เหมาะสำหรับปูในห้องครัว ห้องน้ำ หรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง

• ทนปลวกและแมลง: เนื่องจากไม่ใช่ไม้ธรรมชาติ จึงไม่เป็นแหล่งอาหารของปลวกและแมลงต่าง ๆ

3. ด้านความปลอดภัยและความสบายเท้า

• กันลื่น (Anti-Slip): พื้นผิวส่วนใหญ่มักมี Texture หรือการเคลือบที่ช่วยเพิ่มแรงเสียดทาน ทำให้ลดความเสี่ยงในการลื่นล้ม

• ดูดซับเสียง (Sound Absorption): ด้วยความยืดหยุ่นและโครงสร้างหลายชั้นของวัสดุ ช่วยลดเสียงการเดิน หรือเสียงก้องภายในห้อง ทำให้บรรยากาศเงียบสงบขึ้น

• สบายเท้า: มีความนุ่มและยืดหยุ่นกว่ากระเบื้องทั่วไป ทำให้เดินสบายเท้า ลดแรงกระแทกต่อข้อต่อ

4. ความสวยงามและการดูแลรักษา

• ลวดลายหลากหลาย: มีลวดลายให้เลือกมากมาย ทั้งลายไม้ที่เหมือนจริงมาก ลายหินอ่อน ลายปูนเปลือย หรือสีพื้น เพื่อให้เข้ากับทุกสไตล์การตกแต่ง

• ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว: มีทั้งระบบทากาวและระบบคลิกล็อก (Click Lock) ที่สามารถติดตั้งได้สะดวก รวดเร็ว และบางประเภทยังสามารถปูทับพื้นเดิมได้

• ทำความสะอาดง่าย: พื้นผิวเรียบและกันน้ำ ทำให้การทำความสะอาดคราบสกปรก หรือฝุ่นละอองเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่เช็ดถูด้วยน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป

กระเบื้องยางมีกี่ชนิด? อะไรบ้าง?

โดยปกติกระเบื้องยางจะมี 2 ประเภทได้แก่ กระเบื้องยางธรรมชาติและผลิตจากโพลิเมอร์ ซึ่งกระเบื้องยางโพลิเมอร์จะมีแยกย่อยอีกหลายชนิด เรามาดูรายละเอียดกัน

1.กระเบื้องยางธรรมชาติ ซึ่งทำมาจากยางพาราแท้ ๆ ทำให้มีความเหนียว นุ่ม ทนทานต่อการใช้งานได้งานได้อีกยาว

2.กระเบื้องที่ผลิตจากโพลิเมอร์ เป็นวัสดุปูพื้นที่ทำมาจากวัสดุสังเคราะห์ 2 ชนิดคือ โพลียูรีเทนและพีวีซี  ได้แก่กระเบื้องไวนิล PVC / LVT / SPC หรือ WPC ปัจจุบัน SPC และ LVT เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการตกแต่งที่อยู่อาศัย เนื่องจากลวดลายสวยงามและประสิทธิภาพสูง ทั้งยังมีคุณสมบัติกันน้ำ กันไฟ ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้เช่นเดียวกัน

ข้อดีของกระเบื้องยางลายไม้

กระเบื้องยางลายไม้เป็นวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะให้ลวดลายเหมือนไม้จริง ดูทันสมัย และดูแลรักษาง่าย ข้อดีหลัก ๆ ได้แก่

1) มีหลากหลายราคา เลือกได้ตามงบประมาณ

ตั้งแต่เกรดประหยัดจนถึงระดับพรีเมียม ทำให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่และงบที่ตั้งไว้

2) ทนความชื้น ไม่ขึ้นรา และไม่ใช่อาหารของปลวก

วัสดุยางไม่บวมน้ำ ไม่มีกลิ่นอับ ไม่เสี่ยงปลวก จึงเหมาะกับห้องที่มีความชื้นและบ้านที่ต้องการลดปัญหาด้านปลวก

3) อายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปี และซ่อมแซมง่าย

หากแผ่นใดเสีย สามารถเปลี่ยนเฉพาะจุดได้ ไม่ต้องรื้อทั้งพื้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

4) มีระบบติดตั้งให้เลือก 2 แบบ

– ระบบทากาว (Glue Down)

– ระบบคลิกล็อก (Click Lock)

ข้อควรรู้เกี่ยวกับกระเบื้องยาง

กระเบื้องยางเป็นวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมมาก เพราะติดตั้งง่าย ดูแลง่าย และให้ลวดลายสวยเหมือนไม้จริง แต่ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรรู้ข้อมูลสำคัญดังต่อไปนี้

1) มีหลายประเภทให้เลือก ตามชนิดพื้นที่ ความทนทานที่ต้องการ และงบประมาณ

• กระเบื้องยางระบบทากาว (Glue Down) เหมาะกับพื้นที่เรียบและใช้งานทั่วไป

• กระเบื้องยางคลิกล็อก (Click Lock / LVT Click) ติดตั้งง่าย ไม่ต้องใช้กาว

• SPC (Stone Plastic Composite) แข็งแรงกว่า ผสมผงหิน ทนน้ำ 100% เหมาะกับบ้านและพื้นที่เชิงพาณิชย์

2) ทนน้ำและความชื้น

กระเบื้องยางในกลุ่ม LVT–SPC ไม่บวมน้ำ ไม่ขึ้นรา และไม่เป็นอาหารของปลวก

เหมาะสำหรับห้องครัว ห้องรับแขก ห้องนอน หรือคอนโด

3) อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับ Wear Layer

• ชั้นเคลือบป้องกันรอย (Wear Layer) เป็นตัวกำหนดความทนทาน

• 0.2–0.3 mm → เหมาะกับที่อยู่อาศัย

• 0.4–0.5 mm → เหมาะกับร้านค้า ออฟฟิศ

• 0.7 mm ขึ้นไป → เหมาะกับพื้นที่ใช้งานหนัก

4) พื้นฐานเดิมต้องเรียบสำคัญมาก

โดยเฉพาะแบบทากาว เพราะพื้นไม่เรียบจะเห็นคลื่นหรือรอยต่อชัดเจน

สำหรับแบบคลิกล็อกและ SPC จะยืดหยุ่นกว่า แต่พื้นก็ควรเรียบเสมอเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

5) ซ่อมง่าย เปลี่ยนเฉพาะแผ่นได้

หากแผ่นใดเสีย ไม่จำเป็นต้องรื้อทั้งพื้นแค่เปลี่ยนเฉพาะแผ่นนั้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา

6) มีหลายราคาให้เลือก

ตั้งแต่เกรดประหยัดไปจนถึงเกรดพรีเมียม เหมาะกับทั้งงานรีโนเวทบ้านและงานตกแต่งโครงการขนาดใหญ่

7) ให้สัมผัสเดินสบาย

กระเบื้องยางมีความนุ่มและยืดหยุ่นกว่าไม้จริงหรือกระเบื้องเซรามิก บางรุ่นมีแผ่นรองโฟมในตัวช่วยลดเสียง เดินเงียบและสบายเท้า

8) เหมาะสำหรับพื้นที่ที่อยากได้ลายไม้แต่ไม่อยากดูแลมาก

เนื่องจากทำความสะอาดง่าย ไม่กลัวน้ำ ไม่ต้องเคลือบน้ำยาเหมือนไม้จริง

วิธีปูกระเบื้องยาง SPC คลิกล็อก (แบบไม่ทากาว)

หากเลือกใช้กระเบื้องยาง SPC แบบคลิกล็อก สามารถทำการติดตั้งได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ที่ซับซ้อน โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. เตรียมอุปกรณ์และทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาด

2. เริ่มจากบริเวณที่ติดกับผนัง โดยให้วางแนวกระเบื้องแผ่นแรกบนพื้นที่อยู่ติดกับผนังห้อง โดยเว้นระยะขอบประมาณ 5-10 มม. สำหรับการขยายตัวของวัสดุ

3. เชื่อมต่อแผ่นกระเบื้อง โดยติดตั้งกระเบื้องยางแผ่นแรกจากมุมห้อง แล้วนำแผ่นถัดไปมาวางประกบและใช้ค้อนยางตบเบา ๆ เพื่อให้แผ่นกระเบื้องล็อกแนบสนิทเข้ากัน

4. ตัดแต่งกระเบื้อง หากต้องตัดเพื่อเข้ามุมหรือบริเวณที่แคบ ให้ใช้คัตเตอร์กรีดตามแนวที่ต้องการ แล้วหักออกตามรอย

5. ติดตั้งขอบบัว เมื่อปูกระเบื้องจนเต็มพื้นที่แล้ว ให้ติดตั้งบัวพื้นหรือตัวจบงานเพื่อปิดรอยขอบที่เว้นไว้ให้เรียบร้อย

ขั้นตอนการปูกระเบื้องยาง (แบบทากาว) 

1. เตรียมอุปกรณ์และทำความสะอาดพื้นผิวเพื่อให้ติดกาวได้แน่น หากพื้นทีหลุมหรือรอยแตก ควรซ่อมและปรับพื้นด้วยปูนประระดับ

2. วางแผนการปูกระเบื้อง ก่อนปูกระเบื้องจริง เริ่มจากการวัดพื้นที่รวมของห้อง จากนั้นคำนวณจำนวนแผ่น พร้อมเผื่อ 5-10% สำหรับตัดและซ่อมแซม

3. เริ่มปูพื้น ใช้เกรียงหวีปาดกาวให้ทั่วบริเวณที่ต้องการปู สม่ำเสมอ ไม่ควรปาดหนาเกินไป ทิ้งกาวหมาดก่อน (ประมาณ 10-20 นาที)

4. วางแผ่นแรกให้ได้แนวตรงที่สุด วางแผ่นถัดไปให้รอยต่อสนิทเรียบโดยใช้ลูกกลิ้งยางกลิ้งทับเพื่อให้ติดแน่น และไล่อากาศออก สุดท้ายตัดแผ่นตามขอบห้อง ใช้คัตเตอร์ตัดให้เข้ารูปและปูจนเต็มพื้นที่ทั้งหมด

5. ตรวจว่ามีแผ่นไหนโก่ง เด้ง หรือรอยต่อไม่สนิทหรือไม่ เช็ดคราบกาวที่อาจล้นออกให้เรียบร้อย

6. หลีกเลี่ยงการวางของหนักภายใน 24 ชั่วโมง เดินได้หลังปูไม่นานแต่ควรระวัง

การดูแลและทำความสะอาดกระเบื้องยาง

1. พักพื้นหลังติดตั้งให้กาวเซตตัวเต็มที่

หลังจากปูกระเบื้องยางเสร็จ โดยเฉพาะแบบ ทากาว (Glue Down) ควรปล่อยให้พื้นได้พักตัวอย่างน้อย 24–48 ชั่วโมง

• หลีกเลี่ยงการวางของหนักหรือเฟอร์นิเจอร์ในช่วงแรก

• งดถูพื้นด้วยน้ำใน 1–2 วันแรก
  การให้กาวยึดเกาะเต็มที่ จะช่วยลดปัญหาแผ่นโก่ง แผ่นหลุด หรือรอยต่อเปิดในอนาคต
  
  

2. ทำความสะอาดเป็นประจำ ป้องกันรอยขีดข่วน

กระเบื้องยางเป็นวัสดุที่ทนรอยขีดข่วน แต่ไม่ควรปล่อยให้มีฝุ่นหรือเม็ดทรายสะสม แนะนำให้กวาดหรือดูดฝุ่นทุกวัน และถูพื้นด้วยผ้าหมาด ๆ ไม่ใช่น้ำปริมาณมาก

3. หลีกเลี่ยงสารเคมีรุนแรง

สารเคมีบางชนิดอาจทำให้สีของกระเบื้องยางเปลี่ยนหรือผิวด้านได้ เช่นทินเนอร์, น้ำยาลอกสี และน้ำยากัดคราบแรง ๆ หากต้องการใช้น้ำยา ควรเลือกสูตรอ่อนโยนหรือสูตรเฉพาะสำหรับพื้นกระเบื้องยางเท่านั้น

4. ติดแผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์ ลดรอยบุ๋มหรือขีดข่วน

ติดแผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่หนักหรือขาแหลม เช่น โต๊ะ โลหะ ตู้เสื้อผ้า สามารถสร้างแรงกดจนเป็นรอยได้ และเวลาย้ายของหนักควรยก ไม่ลาก เพียงเท่านี้ก็ช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นได้มากขึ้น

5. ระวังความร้อนสูงและประกายไฟ

 กระเบื้องยางมีความทนความร้อนปานกลาง ไม่ควรใช้ในพื้นที่โดนแดดจัดตลอดเวลา (เช่น พื้นภายนอก) หากวางวัตถุที่ปล่อยความร้อนโดยตรง เช่นเตารีด หม้อไฟฟ้าที่ร้อนจัด อุปกรณ์มีไอน้ำต่อเนื่อง เป็นต้น เพราะอาจทำให้แผ่นบิดตัวหรือผิวหน้าเสียรูปได้ 

อยากเปลี่ยนพื้นบ้านให้เป็นกระเบื้องยางตอนนี้?

เช็กคลังสินค้ากระเบื้องผนัง Thai Soung โปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่: https://www.thaisoung.com/page/product/promotion   

หรือขอใบเสนอราคาพร้อมโปรโมชันล่าสุดได้ที่ฝ่ายบริการลูกค้า

Hotline : 0 2138 8911-12 (อัตโนมัติ 2 คู่สาย)

Website : https://www.thaisoung.com 

Facebook : https://www.facebook.com/ThaiSoungTiles 

Line ID :  Thai Soung Tiles 

Store Location : https://maps.app.goo.gl/bVppvHWZ2LZtauCXA