ค้นหา
Tips&Ideas
เผยแพร่เมื่อ 28 กันยายน 2566 • อัพเดทเมื่อ 19 เมษายน 2568
การเลือกวิธีปูกระเบื้องควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของพื้นผิวที่ต้องการปูกระเบื้อง ลักษณะการใช้งานของพื้นที่ และงบประมาณ เป็นต้น หากพื้นผิวเรียบ และต้องการปูกระเบื้องในระยะเวลาอันสั้น การปูกระเบื้องแบบเปียกก็อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าพื้นผิวไม่เรียบ หรือต้องการปูกระเบื้องในพื้นที่สูง และมีโครงเหล็กเสริมความทนทานต่อการสั่นสะเทือน การปูกระเบื้องแบบแห้งก็เป็นวิธีที่เหมาะสมเช่นเดียวกัน
| ประเภท | การปูกระเบื้องแบบเปียก | การปูกระเบื้องแบบแห้ง | 
| เหมาะสำหรับ | ปูงานพื้น และงานผนังภายในอาคาร หรือผนังที่สูงไม่เกิน 3 เมตร หากต้องการปูผนังสูง ควรใช้ปูนซีเมนต์ที่มีการยึดเกาะพิเศษกว่ารุ่นธรรมดา | ปูงานผนังภายนอก อาคารสูง  สำหรับกระเบื้องหนา 2 cm ขึ้นไป หรืองานหินที่มีความหนาเท่านั้น | 
| ต้นทุน | ต้นทุน : ต่ำ -กระเบื้องสามารถหลุดล่อนออกได้ | ต้นทุน : สูง -กระเบื้องไม่สามารถหลุดล่อนออกได้ | 
| เวลาในการดำเนินการ | -วิธีการปูกระเบื้องแบบเปียก ทำง่ายกว่า แต่คุณจะเสียเวลาในการติดตั้งมากกว่า | -วิธีการปูกระเบื้องแบบแห้ง ประหยัดเวลาในการติดตั้ง ให้ความสะดวก สบาย และรวดเร็ว | 
| ความคงทน | สามารถอยู่ได้ระยะยาวเกิน 20+ ปี สำหรับงานพื้น และงานผนังสูงไม่เกิน 3เมตร แต่หากผนังแนวสูงเกิน 3เมตร อาจมีการหลุดล่อนหลังใช้ไปสักระยะเนื่องจากกาวซีเมนต์เสื่อมสภาพ  | -ทนต่อสภาพอากาศ ทนแดด ทดฝน -แข็งแรง คงทนกว่า เพราะมีเหล็กยึดกระเบื้องอยู่ | 
| ข้อจำกัด | -แรงงานทั่วไปสามารถทำได้ | -ต้องใช้คนงานที่มีทักษะ | 
| ซ่อมแซม | -สามารถเปลี่ยนกระเบื้องแผ่นที่ชำรุดได้ง่ายกว่า เปลี่ยนเฉพาะแผ่นที่ชำรุดได้ | -เมื่อกระเบื้องเกิดความเสียหายไม่สามารถเปลี่ยนแค่แผ่นเดียวได้ต้องเปลี่ยนแผ่นอื่นด้วย | 
| -ใช้ได้ทั้ง ภายใน และภายนอกอาคาร | -ส่วนใหญ่ใช้สำหรับ ภายนอกของอาคาร | |
| -การติดตั้งระหว่างผนังกับกระเบื้อง มีระยะห่างประมาณ 2-3 มิลลิเมตร | -การติดตั้งระหว่างผนังกับกระเบื้อง มีระยะห่างประมาณ 30-45 มิลลิเมตร | 
 ทั้งนี้ การปูกระเบื้องแบบเปียก และการปูกระเบื้องแบบแห้งต่างก็มีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกวิธีปูกระเบื้องที่เหมาะสมควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของพื้นผิวที่ต้องการปูกระเบื้อง ลักษณะการใช้งานของพื้นที่ งบประมาณ เป็นต้น 
 สำหรับลูกค้าที่ต้องการปูงานพื้น และผนังที่สูงไม่เกิน 3 เมตร ทางไทย สุง แนะนำวิธีการปูกระเบื้องแบบเปียก ตามขั้นตอนต่อไปนี้

ให้ช่างหน้างานเคลียร์พื้นที่ ที่ต้องการจะปูกระเบื้อง ให้แน่ใจว่าได้ระดับเท่ากัน ไม่มีเศษหิน หรือแน่ใจว่าพื้นผิวที่ต้องการสะอาด และแห้งดีแล้ว ต่อมาเอาผงฝุ่น และความมันออกจากพื้นผิวถ้ามี หากพื้นผิวมีรอยแตก หรือรูขนาดใหญ่ ให้ซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อน
ประเมินพื้นที่จริงหน้างานว่าขนาดกว้าง และยาว เท่าไร เพื่อคำนวณปริมาณกระเบื้องที่เหมาะสม และจัดแผนการวางกระเบื้องให้ลงบนพื้นที่นั้น ๆ โดยสามารถใช้เครื่องมือในการตัดกระเบื้องแต่งให้เข้ากับขอบ หรือมุมได้อย่างเหมาะสม
ผสมปูนกาวตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากปูนกาวแต่ละรุ่นมีความหนืดต่างกัน โดยต้องใช้ปริมาณน้ำที่ผสมแตกต่างกันไป กรณีที่เป็นงานผนัง หรือ งานกระเบื้องปูพื้นภายนอกต้องเจอกับสภาพอากาศที่แปรปรวน แนะนำให้ใช้ปูนกาวเป็นปูนกาวพิเศษสำหรับการปูกระเบื้องภายนอกเท่านั้น เพื่อให้มีความยืดหยุ่น กันน้ำได้ดี และยับยั้งการเกิดเชื้อราเบื้องต้นได้
ใช้คีม หรือไม้ขูดกาวเพื่อทาปูนกาวลงบนพื้นหน้างานที่เตรียมไว้ และทาปูนกาวลงที่หลังของกระเบื้อง หลังจากนั้นช่างควรใช้ค้อนยางเพื่อกดแน่นกระเบื้องลงบนปูนกาว
วางกระเบื้องลงบนปูนกาวด้วยความระมัดระวัง เริ่มจากปูกระเบื้องจากตัวมุมห้องในพื้นหน้างาน และใช้อุปกรณ์ทำประเมินระยะห่างระหว่างกระเบื้อง เพื่อให้มีความเท่ากัน
ในกรณีที่มีกระเบื้องใหญ่ ควรวางกระเบื้องเพื่อให้มีระยะห่างที่เท่ากัน ตัวคัดร่อง ขนาดเล็กสำหรับการช่วยปรับระยะห่าง และ ตัวปรับระดับ ช่วยลดการโก่งงอของกระเบื้อง
หลังจากปูกระเบื้องเสร็จสิ้น ล้างคราบยาแนวที่เกินขอบกระเบื้องด้วยน้ำสะอาด อย่าปล่อยให้กาวแห้งบนพื้นผิวกระเบื้องเป็นเวลานาน เนื่องจากจะทำความสะอาดได้ยากในภายหลัง
หลังจากกระเบื้องแห้งแล้ว ควรทำความสะอาด และบำรุงรักษากระเบื้องตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อรักษาความสวยงาม และความทนทาน เช่น
● ควรทำความสะอาดกระเบื้องด้วยน้ำสะอาด หรือผสมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ และไม่ควรราดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบนผิวหน้ากระเบื้องไว้นานเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดคราบติดกระเบื้องได้รอให้ปูนแห้งสนิทเป็นเวลา 24 - 48 ชม. ก่อนยาแนว หากเกิดการขยับของกระเบื้องก่อนที่ปูนจะแห้งสนิท อาจทำให้กระบื้องเอียง และหมิ่นเสียหายได้ รอให้ปูนแห้งสนิทเพื่อให้เห็นคุณสมบัติที่ดีที่สุดก่อนที่จะนำใช้งาน

( ภาพตัวอย่างการปูแบบแห้งด้วยกระเบื้อง รหัสสินค้า GT6633N )
ตรวจสอบว่าผนังเรียบ และไม่มีความเสียหาย ถ้ามีความเสียหายให้ซ่อมแซมก่อนติดกระเบื้อง ทั้งนี้ก่อนติดตั้งกระเบื้องแบบแห้งให้ปรึกษาวิศวกรผู้คุมงานว่าผนัง และโครงสร้างสามารถรับน้ำหนักได้ หรือเปล่า เนื่องจากน้ำหนักของกระเบื้อง และโครงเหล็กจะไปกดทับโครงสร้าง
เตรียมผนังที่ต้องการติดตั้ง เช่น เคลียผนังที่มีปูนที่แตกเป็นรูขนาดใหญ่ ด้วยการซ่อมพื้นผิวให้เรียบได้ระดับที่เสมอกัน เพื่อสะดวกต่อการเจาะเพื่อติดตั้ง หรือมีวัสดุอื่นติดอยู่ที่ผนัง เช่น ซึ่งอาจทำให้การติดตั้งด้วยการเจาะไม่ตรงตามตำแหน่งที่ต้องการ ควรเคลียวัสดุอื่นออกจากพื้นที่ ที่ต้องการติดตั้งให้หมด
ติดตั้งโครงเหล็ก และกระเบื้องเข้าด้วยกัน โดยใช้เครื่องเจาะรู เพื่อเจาะรูในผนังตามตำแหน่งที่ต้องการ ติดกระเบื้องใส่กับเหล็ก เจาะรูให้ตรงตามรูที่เจาะ และใส่นอตติดกับเหล็ก วางกระเบื้องให้ระยะห่างเท่ากัน
ใช้เครื่องมือในการวัดระนาบ และระดับของกระเบื้อง กรณีที่กระเบื้องมีความลอย หรือไม่ได้ระดับ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระเบื้องมีการวางแน่น และไม่มีรอยแตกร้าว
สุดท้ายให้ทำความสะอาดผนัง และกระเบื้อง ไม่ให้เกิดการสะสมของฝุ่น ลดการเกิดคราบฝังแน่น หรือไม่ให้เศษเหล็ก, เศษกระเบื้อง ยังคงหลงเหลืออยู่
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
 
                                THAI SOUNG WRITER
เชี่ยวชาญเรื่องกระเบื้องปูพื้นและบุผนังมามากกว่า 22 ปี เราพร้อมมุ่งมั่นมอบความรู้และเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระเบื้องทุกประเภท เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถเลือกใช้กระเบื้องที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณด้วยมาตรฐานและคุณภาพสูงสุด
  ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระเบื้อง ฟรี!
แนะนำครบทุกเรื่อง ตั้งแต่ดีไซน์จนถึงการใช้งาน ที่ตรงกับความต้องการของคุณ ติดต่อ ไทย สุง
 
           
          ส่งข้อความสำเร็จ
กรุณารอการตอบกลับ