กระเบื้องตัดขอบ vs ไม่ตัดขอบ: แบบไหนปูสวย ร่องเล็กกว่ากัน?

คุณได้ตัดสินใจที่จะรีโนเวทบ้านเดิมเป็นสไตล์เรียบหรู คุณจึงตัดสินใจโละกระเบื้องปูพื้นใหม่ เพราะกระเบื้องเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่สร้างบรรยากาศและกำหนดโทนโดยรวมของบ้าน คุณได้ค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตมากมาย และเข้าใจว่ากระเบื้องแผ่นใหญ่ ร่องยาแนวเล็ก ให้สไตล์เรียบหรูแก่บ้าน  อย่างไรก็ตามเมื่อคุณก้าวเข้าสู่โชว์รูม คุณก็พบว่าลายที่คุณเลือกนั้น มีกระเบื้องอยู่สองแบบที่ชื่อไม่คุ้นหูเสียเลย อย่าง "กระเบื้องตัดขอบ" และ "กระเบื้องไม่ตัดขอบ"

 1.กระเบื้องตัดขอบ vs กระเบื้องไม่ตัดขอบ: สองทางเลือกที่แตกต่าง

ในการเลือกกระเบื้องแผ่นใหญ่เพื่อสร้างพื้นผิวที่เรียบเนียนไร้รอยต่อ สิ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจก่อนคือความแตกต่างระหว่าง กระเบื้องตัดขอบ (Rectified Tile) และ กระเบื้องไม่ตัดขอบ (Non-Rectified Tile)

• กระเบื้องไม่ตัดขอบ (Non-Rectified Tile): คือกระเบื้องที่ผ่านกระบวนการผลิตและเผาออกมาโดยไม่ผ่านการตัดแต่งขอบเพิ่มเติม ทำให้ขอบของกระเบื้องอาจมีความโค้งมนเล็กน้อย ไม่ได้เป็นเส้นตรงคมกริบเสมอไป ขนาดในแต่ละแผ่นอาจเกิดความคลาดเคลื่อนขึ้นได้เล็กน้อย อันเนื่องมาจากการขยายตัวและหดตัวของวัสดุในระหว่างขั้นตอนการเผา นี่คือกระเบื้อง "ทั่วไป" ที่เราคุ้นเคยกัน
• กระเบื้องตัดขอบ (Rectified Tile): เป็นกระเบื้องที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการตัดแต่งขอบด้วยเครื่องจักรเพิ่มเติมหลังจากผ่านการเผา ขอบของกระเบื้องจึงมีความตรง ได้ฉาก 90 องศา และมีขนาดที่เท่ากันในทุกแผ่นอย่างแม่นยำ ซึ่งความแม่นยำนี้เองที่เป็นหัวใจสำคัญของการปูกระเบื้องให้ดูเรียบเนียนเหมือนเป็นผืนเดียวกัน

2. ร่องยาแนวที่เล็กกว่า: ความหรูหราที่กระเบื้องตัดขอบมอบให้

เมื่อได้ยินว่ากระเบื้องตัดขอบมีขนาดที่เป๊ะและขอบตรง สิ่งที่คุณสงสัยต่อก็คือ "ถ้าขนาดเป๊ะขนาดนี้ ร่องยาแนวก็ควรจะเล็กกว่าแบบไม่ตัดขอบใช่ไหมนะ?" คำตอบคือ ใช่ ค่ะ!!!

นี่คือหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้กระเบื้องตัดขอบเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นผิวที่ดูหรูหรา การที่ขอบกระเบื้องมีความตรง ทำให้ช่างสามารถเว้น ร่องยาแนวได้เล็กมากเพียง 1-3 มิลลิเมตร ซึ่งเล็กกว่าการปูกระเบื้องไม่ตัดขอบที่อาจต้องเว้นร่องยาแนว 3-5 มิลลิเมตรขึ้นไปเพื่อรองรับความคลาดเคลื่อนของขนาด ยิ่งร่องยาแนวเล็กเท่าไหร่ พื้นผิวก็จะยิ่งดูต่อเนื่องเป็นผืนเดียวมากเท่านั้น สร้างความรู้สึกโอ่อ่าและไร้ที่ติให้กับบ้านของคุณ

3.เปรียบเทียบคุณสมบัติกระเบื้องตัดขอบ vs ไม่ตัดขอบ

4. "ปูชิดปูชน" กับกระเบื้องตัดขอบ: ความเสี่ยงที่ต้องระวัง

ด้วยความที่ร่องยาแนวเล็กได้ถึง 1-3 มิลลิเมตร หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าสามารถปูกระเบื้องตัดขอบแบบ "ปูชิดปูชน" หรือไม่เว้นร่องยาแนวเลยได้ คำตอบคือ ทำได้แต่ไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง

แม้กระเบื้องจะถูกผลิตมาอย่างแม่นยำเพียงใด แต่ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เช่น การขยายตัวและหดตัวของวัสดุ (ทั้งตัวกระเบื้องเอง และโครงสร้างพื้น) เนื่องจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง ความชื้น หรือการทรุดตัวของอาคาร ยังคงเกิดขึ้นได้ หากปูกระเบื้องชิดกันมากเกินไปหรือไม่มีร่องยาแนวรองรับการขยายตัว อาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ในภายหลัง เช่น:

• กระเบื้องโก่งตัว: แผ่นกระเบื้องดันกันจนพื้นผิวนูนขึ้น
• กระเบื้องระเบิด: แผ่นกระเบื้องดันกันอย่างรุนแรงจนแตกหัก หรือกระเด็นหลุดออกมาจากพื้น
• ร่องยาแนวหลุดร่อน/แตกร้าว: หากเว้นร่องยาแนวน้อยกว่าที่แนะนำ ยาแนวจะไม่มีพื้นที่ให้ยืดหยุ่น ทำให้แตกร้าวหรือหลุดร่อนได้ง่าย

ดังนั้น การเว้นร่องยาแนวอย่างน้อย 1-3 มิลลิเมตร แม้จะเป็นเพียงร่องเล็กๆ แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยดูดซับแรงดันและแรงบีบอัด ให้กระเบื้องของคุณคงความสวยงามและใช้งานได้อย่างยาวนาน

สรุป: เลือกแบบไหนดีที่สุดสำหรับคุณ?

• เลือก "กระเบื้องตัดขอบ" (Rectified Tile) หากคุณ:
  
• ต้องการพื้นหรือผนังที่ดูหรูหรา ทันสมัย เรียบเนียนเป็นผืนเดียวกัน
• ต้องการร่องยาแนวที่เล็กที่สุด เพื่อความสวยงามและทำความสะอาดง่าย
• มีงบประมาณที่พร้อมจ่ายเพิ่ม
• มั่นใจว่ามีช่างปูกระเบื้องที่มีฝีมือและประสบการณ์สูง
• เลือก "กระเบื้องไม่ตัดขอบ" (Non-Rectified Tile) หากคุณ:
• มีงบประมาณจำกัด และต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย
• ต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้ง หรือหาช่างที่มีฝีมือละเอียดสูงได้ยาก
• ไม่ติดใจกับร่องยาแนวที่ชัดเจนกว่า หรือชอบสไตล์คลาสสิกที่เห็นรอยต่อของกระเบื้อง

การทำความเข้าใจความแตกต่างของ กระเบื้องตัดขอบ และ กระเบื้องไม่ตัดขอบ จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกกระเบื้องที่เหมาะสมกับสไตล์ ความต้องการ และงบประมาณของคุณได้อย่างชาญฉลาดที่สุด และได้ผลลัพธ์ที่สวยงามถูกใจ