พื้นห้องน้ำเป็นคราบราดำขัดไม่ออก ต้องทำความสะอาดยังไง ?

คู่มือขจัดคราบราดําบนพื้นห้องน้ำที่ทำตามได้จริง

คราบราดำบนพื้นห้องน้ำเป็นปัญหาที่หลายบ้านต้องเผชิญ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงและมีการระบายอากาศไม่ดี ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเชื้อราที่ทำให้เกิดคราบราดำได้ง่าย ซึ่งไม่เพียงจะส่งผลให้ห้องน้ำดูสกปรกไม่น่ามอง แต่ยังอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ดังนั้น บทความนี้จะพาไปรู้วิธีขจัดคราบราดําบนพื้นห้องน้ำแบบครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาด ไปจนถึงเคล็ดลับการป้องกันไม่ให้คราบราดำกลับมาใหม่ ที่สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

ทำไมพื้นห้องน้ำถึงเกิดคราบราดำ ?

การเข้าใจต้นตอของคราบคือด่านแรกที่จะช่วยให้สามารถกำจัดคราบราดำในห้องน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะคราบเหล่านี้ไม่ได้มาเพราะ “ความสกปรก” เสมอไป แต่เกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนี้

• ความชื้นสูง : ห้องน้ำเป็นพื้นที่เปียกชื้นแทบตลอดเวลา ยิ่งอาบน้ำบ่อย ๆ ความชื้นสะสมก็ยิ่งสูง สภาพแวดล้อมแบบนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งต่อการเติบโตของเชื้อราและตะไคร่น้ำ
• การระบายอากาศไม่ดี : หากไม่มีพัดลมดูดอากาศหรือช่องลมที่ช่วยให้อากาศหมุนเวียนได้ดี ความชื้นก็จะยิ่งสะสมอยู่นานขึ้น และทำให้พื้นมีแนวโน้มเกิดราดำบนพื้นห้องน้ำได้ง่ายขึ้น
• การทำความสะอาดไม่สม่ำเสมอ : ถึงแม้จะใช้กระเบื้องดีแค่ไหน หากไม่ดูแลอย่างสม่ำเสมอ คราบสบู่ คราบแชมพู และสิ่งสกปรกก็จะสะสมเป็นแผ่นบาง ๆ จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเชื้อราในที่สุด
• พื้นห้องน้ำมีร่องยาแนวหรือพื้นผิวขรุขระ : ร่องยาแนวและพื้นผิวกระเบื้องแบบไม่เรียบ เช่น ลายหินธรรมชาติ มักเป็นแหล่งสะสมความชื้นและฝุ่นละอองได้ง่าย ทำให้เกิดราดำได้รวดเร็วกว่าพื้นผิวเรียบลื่น

วิธีทำความสะอาดคราบราดำบนพื้นห้องน้ำ

จริงอยู่ที่คราบราดำบนพื้นห้องน้ำนั้นขัดออกยาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการที่พื้นห้องน้ำเป็นคราบ ราดําจะขัดไม่ออกเสียทีเดียว ข่าวดีคือถ้าเรารู้วิธีใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และใช้อย่างถูกวิธี ก็จะสามารถจัดการได้อยู่หมัด โดยสามารถแบ่งวิธีการขจัดคราบราดําบนพื้นห้องน้ำได้เป็นข้อ ๆ ดังนี้

1. เบกกิงโซดากับน้ำส้มสายชู

หนึ่งในวิธีบ้าน ๆ แต่ได้ผลจริง

• โรยเบกกิงโซดาลงบนบริเวณที่มีคราบ
• ฉีดน้ำส้มสายชู (ชนิดสีขาว) ทับ
• ทิ้งไว้ 15–20 นาที จนคราบเริ่มฟองฟู่
• ขัดด้วยแปรงขนนุ่มแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า

สูตรนี้ปลอดภัย ไม่มีสารเคมีรุนแรง เหมาะกับผู้ที่แพ้ง่ายหรือมีสัตว์เลี้ยง

2. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide)

วิธีนี้เหมาะสำหรับขจัดคราบราดำบนพื้นห้องน้ำที่ฝังลึก

• ผสมน้ำอุ่นกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในอัตราส่วน 2:1
• เทลงบนคราบและทิ้งไว้ 10–15 นาที
• ขัดแล้วล้างด้วยน้ำเปล่า

สารนี้มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราได้ดี แต่ควรใส่ถุงมือขณะใช้

3. น้ำยาฟอกขาว (Bleach)

ถ้า 2 วิธีข้างต้นยังไม่ได้ผล แนะนำให้ลองวิธีนี้ เพราะน้ำยาฟอกขาวมีฤทธิ์กัดกร่อนที่รุนแรงที่สุด แต่การใช้ก็ต้องระมัดระวังอย่างมากเช่นกัน

• ใช้เฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี
• ผสมน้ำยาฟอกขาวกับน้ำในอัตราส่วน 1:3
• เทหรือพ่นลงบริเวณคราบ ทิ้งไว้ 5–10 นาที
• ขัดเบา ๆ และล้างให้สะอาด

ข้อควรระวัง: ห้ามผสมน้ำยาฟอกขาวกับน้ำส้มสายชู หรือแอมโมเนียเด็ดขาด เพราะอาจเกิดปฏิกิริยาที่เป็นอันตราย

เคล็ดลับป้องกันไม่ให้คราบราดำกลับมาอีก

• เปิดพัดลมหรือหน้าต่างหลังอาบน้ำ : ทันทีที่อาบน้ำเสร็จ ควรเปิดพัดลมหรือหน้าต่างให้อากาศหมุนเวียน ความชื้นจะได้ไม่สะสมจนเป็นแหล่งเพาะเชื้อ
• เช็ดพื้นห้องน้ำให้แห้งหลังใช้งาน : แม้จะดูยุ่งยาก แต่แค่ใช้ไม้รีดน้ำดันน้ำเข้าท่อทุกครั้ง ก็จะสามารถช่วยลดความชื้นสะสมและลดโอกาสที่พื้นกระเบื้องเป็นคราบราดําได้
• ใช้สเปรย์น้ำส้มสายชูหรือน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นประจำ : พ่นลงบนพื้นห้องน้ำ (โดยเฉพาะตามร่องยาแนว) สัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง เพื่อยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรียไม่ให้ก่อตัว
• ขัดทำความสะอาดห้องน้ำเป็นประจำ : อย่ารอให้เกิดคราบราดำบนพื้นห้องน้ำถึงค่อยจัดการ ควรล้างพื้นห้องน้ำและขัดเบา ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
• เลือกใช้ยาแนวที่ป้องกันคราบราดำ : ยาแนวคุณภาพดีจะมีคุณสมบัติกันน้ำและต้านเชื้อรา ช่วยลดการสะสมของความชื้น รวมถึงป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อราซึ่งเป็นสาเหตุหลักของคราบราดำบนพื้นห้องน้ำ

การดูแลรักษากระเบื้องไม่ให้เกิดราดำบนพื้นห้องน้ำคือสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ นอกจากนั้น ถ้าอยากป้องกันปัญหานี้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้กระเบื้องห้องน้ำคุณภาพสูงที่ทนทานและเหมาะสมกับพื้นที่ใช้งานตั้งแต่แรก โดยสำหรับใครที่กำลังมองหาแหล่งจำหน่ายกระเบื้องคุณภาพดี มีมาตรฐานที่เชื่อใจได้ ต้องที่ ไทย สุงฯ ร้านกระเบื้องเกรดพรีเมียม ดีเยี่ยมเรื่องบริการ พร้อมดูแลด้วยประสบการณ์กว่า 21 ปี โดยได้รับความไว้วางใจจากโครงการชั้นนำทั่วประเทศ ผ่านการคัดสรรกระเบื้องผนังและปูพื้นคุณภาพสูงที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจในความทนทานและสวยงามของผลิตภัณฑ์ ทุกชิ้นถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ภายใน หรือภายนอกอาคาร โดยสามารถเลือกชมได้ทั้งในเว็บไซต์และที่โชว์รูม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ Hotline : 0 2138 8911-16 ( อัตโนมัติ 6 คู่สาย ) หรือ Add LINE Official Account: @thaisoung

แหล่งอ้างอิง

1. How to Get Rid of Mold in Bathroom Tiles and Walls. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 จาก https://www.bhg.com/homekeeping/house-cleaning/tips/how-to-clean-bathroom-mold/