วิธีคำนวณปูน-ทรายสำหรับปูกระเบื้องให้พอดี ไม่ขาดไม่เหลือทิ้ง
การปูกระเบื้อง เป็นขั้นตอนสำคัญในการตกแต่งบ้านและอาคาร แต่การจะปูกระเบื้องให้เรียบเนียนและแข็งแรงได้นั้นจำเป็นต้องใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการใช้วิธีคำนวณปริมาณปูนและทรายสำหรับปูกระเบื้องอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาพื้นกระเบื้องโก่งตัว แตกร้าว หรือหลุดล่อนในอนาคต
แต่คำถามที่มักพบบ่อย ๆ ก็คือ “หากต้องการปูกระเบื้อง 1 ตารางเมตรต้องใช้ปูนและทรายเท่าไร ?” หรือ “หากใช้ปูนกาวปูกระเบื้อง 1 ถุงจะใช้ได้กี่ตารางเมตร ?” ซึ่งคำตอบของคำถามเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ในการปูและขนาดของกระเบื้อง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีคำนวณปูนและทรายที่แม่นยำ เพื่อให้การปูกระเบื้องออกมาสวยงาม คงทน ลดการสิ้นเปลืองวัสดุ
ทำไมการคำนวณปริมาณปูนและทรายให้แม่นยำถึงมีความสำคัญ ?
การปูกระเบื้องให้ได้คุณภาพและทนทาน ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่การเลือกกระเบื้องที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงการใช้ปูนและทรายในปริมาณที่เหมาะสมด้วย อีกทั้งการคำนวณที่ถูกต้องยังจะช่วยให้เกิดผลลัพธ์ดี ๆ เหล่านี้
- คุณภาพงานดีขึ้น - การใช้ปูนและทรายในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้กระเบื้องยึดเกาะแน่นหนา ลดโอกาสที่พื้นจะโก่งตัว หรือแตกร้าวในอนาคต
- ประหยัดค่าใช้จ่ายและลดการสิ้นเปลือง - ป้องกันการซื้อวัสดุเกินความต้องการ ทำให้เสียเงินโดยไม่จำเป็น และอาจเป็นวัสดุเหลือทิ้งที่กลายเป็นขยะซึ่งไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ประมาณเวลาทำงานได้แม่นยำ - เมื่อรู้ปริมาณวัสดุที่ต้องใช้ จะสามารถวางแผนการทำงานและจ้างแรงงานได้อย่างเหมาะสม ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มเติมในระหว่างปฏิบัติงาน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อปริมาณปูนและทรายที่ใช้
การคำนวณปูนและทรายสำหรับปูกระเบื้อง 1 ตารางเมตร จะต้องพิจารณาปัจจัยสำคัญหลายประการร่วมกัน ดังนี้
- ขนาดของกระเบื้อง - กระเบื้องขนาดใหญ่ต้องใช้ปูนมากกว่าเพื่อให้การยึดเกาะแข็งแรง ในขณะที่กระเบื้องขนาดเล็กจะใช้ปูนน้อยกว่า แต่ต้องมีความแม่นยำในการปู
- ความหนาของชั้นปูน - โดยทั่วไปจะมีความหนา 10-15 มิลลิเมตร สำหรับงานทั่วไป แต่อาจต้องใช้ปูนและทรายเพิ่มมากขึ้นหากพื้นดูไม่เรียบ
- ประเภทของปูนที่ใช้ - โดยทั่วไปปูนทรายและปูนกาว จะมีความหนาแน่นและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน
- ลักษณะพื้นผิวเดิม - พื้นผิวขรุขระหรือไม่เรียบอาจต้องใช้ปูนมากกว่าเพื่อปรับระดับ
วิธีการปูกระเบื้อง : เปรียบเทียบปูนทรายกับปูนกาว
โดยทั่วไป ปริมาณปูนและทรายที่ใช้จะขึ้นอยู่กับวิธีการปู ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่
1. การปูกระเบื้องแบบใช้ปูนทราย (Traditional Cement-Sand Mortar)
ข้อดี
- ประหยัดงบประมาณ เนื่องจากราคาถูกกว่าปูนกาว ประมาณ 30-40%
- แห้งเร็วกว่า เพราะมีส่วนผสมของทรายที่ช่วยในการระบายความชื้น
- ปรับระดับพื้นไปพร้อมกันได้ ไม่เสียเวลาในการเตรียมพื้นแยกต่างหาก
- เหมาะกับงานที่มีงบประมาณจำกัด โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่
ข้อควรพิจารณา
- การยึดเกาะจะลดลงตามเวลา เนื่องจากมีเนื้อกาวซีเมนต์น้อยกว่าปูนกาว
- เสี่ยงต่อการเกิดกระเบื้องระเบิด หลังจากผ่านไปแล้ว 1-2 ปี เพราะกระเบื้องอาจไม่ติดกับปูนทรายแน่นพอ
- ไม่เหมาะกับพื้นที่ร้อนจัด เนื่องจากการขยายตัวของวัสดุที่แตกต่างกัน
ลักษณะการใช้งาน
มักใช้ในงานโครงการก่อสร้างราคาประหยัด หรือพื้นที่ที่มีแผนรีโนเวตในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เช่น ร้านค้าในห้างสรรพสินค้า หรือพื้นที่ภายนอกอาคาร

2. การปูกระเบื้องแบบใช้ปูนกาว (Tile Adhesive Mortar)
ข้อดี
- การยึดเกาะที่แข็งแรงและคงทน เหมาะกับการใช้งานระยะยาว 15-20 ปี
- เหมาะกับกระเบื้องขนาดใหญ่ เช่น กระเบื้องแกรนิตโต้ หรือกระเบื้องลายหินอ่อน ขนาด 80x80 ซม. ขึ้นไป
- ความเรียบเนียนสม่ำเสมอ ทำให้พื้นผิวสวยงาม
- ทนต่อสภาพอากาศและการขยายตัว เหมาะกับพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านอุณหภูมิ
ข้อควรพิจารณา
- ปูนกาวมีราคาแพงกว่าปูนทราย
- ต้องเตรียมพื้นให้เรียบเสียก่อน ไม่สามารถปรับระดับพื้นได้มากนัก
ลักษณะการใช้งาน
ใช้ในงานตกแต่งที่ต้องการความเรียบร้อย และทนทานในระยะยาว เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว พื้นภายในบ้าน และพื้นที่ที่มีคนเดินผ่านบ่อย
วิธีคำนวณปริมาณปูนและทรายสำหรับปูกระเบื้อง 1 ตารางเมตร
1. การปูกระเบื้องแบบใช้ปูนทราย
การปูกระเบื้องด้วยปูนทรายเป็นวิธีดั้งเดิมที่ช่างก่อสร้างใช้กันมายาวนาน โดยจะใช้ปูนซีเมนต์ผสมกับทรายในอัตราส่วนที่เหมาะสม ข้อดีของวิธีนี้คือประหยัดงบประมาณและสามารถปรับระดับพื้นไปพร้อมกันได้ สำหรับพื้นที่ 1 ตารางเมตร จะต้องใช้วัสดุดังนี้
- ปูนซีเมนต์: 8-10 กก. ต่อตารางเมตร
- ทราย: 0.02 ลูกบาศก์เมตรต่อตารางเมตร (ประมาณ 20 ลิตร)
- อัตราส่วนปูนต่อทราย: 1:3 หรือ 1:4 ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงที่ต้องการ
ทั้งนี้ อัตราส่วนของปูนและทรายที่ใช้ มีผลต่อความแข็งแรงของกระเบื้องที่ปู โดยมีรายละเอียดดังนี้
- อัตราส่วน 1:3 เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น พื้นที่มีคนเดินมาก หรือพื้นที่รับน้ำหนักมาก
- อัตราส่วน 1:4 เหมาะสำหรับงานทั่วไป ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า
สรุป : ปูกระเบื้องแบบปูนทราย 1 ตารางเมตรใช้ปูนและทรายเท่าไร ?
การปูกระเบื้องแบบปูนทราย 1 ตารางเมตร จะต้องใช้ปูน 8-10 กก. และทราย 20 ลิตร
แต่หากต้องการหาปริมาณปูนและทรายที่ใช้ในการปูกระเบื้องในพื้นที่ต่าง ๆ ให้คูณด้วยพื้นที่ซึ่งมีหน่วยเป็นตารางเมตรตามตัวอย่างนี้
ตัวอย่างการคำนวณปูนและทรายปูกระเบื้องด้วยเทคนิคปูนทราย สำหรับพื้นที่ 10 ตารางเมตร
หากต้องการปูกระเบื้องขนาด 60x60 ซม. จำนวน 10 ตารางเมตร ด้วยเทคนิคปูนทรายโดยใช้อัตราส่วนปูนต่อทราย 1:3 (เหมาะกับงานทั่วไป) โดยใช้ปูนซีเมนต์ 9 กก. ต่อตารางเมตร (ค่ากลางจากช่วง 8-10 กก.)
คำนวณวัสดุที่ต้องใช้
- ปูนซีเมนต์ = 9 กก. × 10 ตร.ม. = 90 กก.
- ทราย = 20 ลิตร × 10 ตร.ม. = 200 ลิตร
จำนวนปูนซีเมนต์ที่ต้องซื้อ
- ปูนซีเมนต์ 90 กก. = ประมาณ 2 ถุง (ถุงขนาด 50 กก.)
2. การปูกระเบื้องแบบใช้ปูนกาว
การปูกระเบื้องด้วยปูนกาวเป็นเทคนิคสมัยใหม่ที่ให้ความแข็งแรงและทนทานสูงกว่าวิธีดั้งเดิม เพราะปูนกาวเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ผสมน้ำเท่านั้น ไม่ต้องใช้ทราย สำหรับการนำไปใช้ปูพื้นในพื้นที่ 1 ตารางเมตร จะต้องใช้วัสดุดังนี้
- ปูนกาว: 3-5 กก. ต่อตารางเมตร (ขึ้นอยู่กับขนาดของเกรียงหวีที่ใช้ในการกรีดปูนกาวให้หนาสม่ำเสมอ)
- อัตราส่วน: ไม่มีการใช้ทราย เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ผสมน้ำเท่านั้น
ขนาดเกรียงหวีที่แตกต่างกันจะใช้ปูนกาวในปริมาณที่แตกต่างกัน
- เกรียงหวีฟัน 6 มม. ใช้ปูนกาว 3 กก./ตร.ม. เหมาะกับกระเบื้องขนาดเล็ก (30x30 ซม.)
- เกรียงหวีฟัน 10 มม. ใช้ปูนกาว 4 กก./ตร.ม. เหมาะกับกระเบื้องขนาดกลาง (60x60 ซม.)
- เกรียงหวีฟัน 12 มม. ใช้ปูนกาว 5 กก./ตร.ม. เหมาะกับกระเบื้องขนาดใหญ่ (80x80 ซม. ขึ้นไป)
สรุป : ปูนกาวปูกระเบื้อง 1 ถุงใช้ได้กี่ตารางเมตร ?
การปูกระเบื้องแบบปูนกาว 1 ตารางเมตร จะต้องใช้ปูนกาวประมาณ 3-5 กก. โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ปูนกาว 1 ถุง ขนาด 20 กก. จะปูกระเบื้องได้ 4-6 ตร.ม.
- ปูนกาว 1 ถุง ขนาด 25 กก. จะปูกระเบื้องได้ 5-8 ตร.ม.
ตัวอย่างการคำนวณปูน สำหรับปูกระเบื้องด้วยเทคนิคปูนกาว ในพื้นที่ 10 ตารางเมตร
หากต้องการปูกระเบื้องขนาด 60x60 ซม. จำนวน 10 ตารางเมตร ด้วยเทคนิคปูนกาว และใช้เกรียงหวีขนาด 10 มม. โดยใช้ปูนกาว 4 กก. ต่อตารางเมตร และไม่ต้องใช้ทราย
คำนวณวัสดุที่ต้องใช้
- ปูนกาว = 4 กก. × 10 ตร.ม. = 40 กก.
จำนวนปูนกาวที่ต้องซื้อ
- ปูนกาว 40 กก. = ประมาณ 2 ถุง (ถุงขนาด 20 กก.)
การเลือกกระเบื้องที่มีคุณภาพสูงและเหมาะกับการใช้งาน ไม่เพียงช่วยลดปัญหาการซ่อมแซมในอนาคตเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่ภายในบ้านและนอกอาคาร หากกำลังมองหากระเบื้องลายหินอ่อนที่มีความหรูหรา ทนทาน ง่ายต่อการดูแล ไทย สุง พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยประสบการณ์กว่า 21 ปี ให้บริการที่เป็นเลิศ โดยสามารถเลือกชมสินค้าได้ทั้งในเว็บไซต์และที่โชว์รูม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ Hotline : 0 2138 8911 และ 0 2138 8912 หรือ Add LINE Official Account: @thaisoungtiles
แหล่งอ้างอิง
- Installation of floor tiles using Cement Mortar. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 จาก https://homeinspektor.com/installation-of-floor-tiles-using-cement-mortar/
- What is Thinset? Welcome to Tile Adhesive 101!. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 จาก https://livden.com/blogs/blog/what-is-thinset-welcome-to-tile-adhesive-101