ค้นหา

Tips&Ideas


แนะนำเทคนิคการปูพื้นนอกบ้านแบบประหยัดแต่ได้งานเนี้ยบ

การปูพื้นบ้านเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่สุดสำหรับการตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านใหม่หรือการรีโนเวตพื้นที่เก่า แต่เมื่อพูดถึงการปูพื้นบ้าน หลายคนมักคิดว่า “งานคุณภาพดีต้องมาพร้อมกับราคาสูง” ซึ่งความจริงแล้ว หากวางแผนและเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสม เราก็สามารถได้พื้นที่สวยงาม แข็งแรง ทนทาน โดยไม่ต้องใช้เงินเกินจำเป็น ดังนั้น บทความนี้จึงจะพาไปดูเคล็ดลับปูพื้นนอกบ้านแบบประหยัดงบประมาณ ที่ยังคงคุณภาพงานไว้แบบมืออาชีพ


1. วางแผนให้รอบคอบก่อนเริ่มงาน

ถ้าอยากปูพื้นนอกบ้านแบบประหยัด และอยากได้ผลลัพธ์ที่ดี ก็ต้องเริ่มต้นจากการวางแผนที่รอบคอบ ซึ่งช่วยลดต้นทุนและลดการสูญเสียวัสดุที่ไม่จำเป็นได้ 

  • วัดขนาดพื้นที่ให้แม่นยำ : คำนวณขนาดพื้นที่ที่ต้องปูพื้นโดยละเอียด และเผื่อวัสดุเพิ่ม 10-15% สำหรับการตัดแต่งหรือกรณีที่วัสดุเสียหายเล็กน้อย
  • กำหนดงบประมาณที่เหมาะสม : ควรตั้งงบประมาณที่สามารถใช้จ่ายได้ และเปรียบเทียบราคาวัสดุจากหลายแหล่ง
  • คำนึงถึงการระบายน้ำ : พื้นภายนอกควรมีความลาดเอียงที่เหมาะสมเพื่อป้องกันน้ำขัง โดยทั่วไปควรมีความลาดเอียงประมาณ 1-2% เพื่อให้น้ำไหลลงสู่ทางระบายน้ำได้ดี


    2. เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับงบประมาณ

    ถึงแม้จะเป็นการปูพื้นแบบประหยัด แต่วัสดุที่เลือกใช้ก็ต้องมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ความแข็งแรง ทนต่อสภาพอากาศ และไม่ลื่นจนเกินไป โดยวัสดุที่แนะนำสำหรับการปูพื้นหน้าบ้านแบบประหยัดมีดังนี้

    • กระเบื้องเซรามิกกันลื่น – เหมาะกับลานหน้าบ้านและเฉลียง มีลวดลายให้เลือกหลากหลายและราคาไม่แพง แต่ควรเลือกแบบที่มีค่าความฝืด (R Rating) R10 ขึ้นไป เพื่อป้องกันการลื่น
    • กระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain Tile) – ทนทานกว่ากระเบื้องเซรามิก มีค่าการดูดซึมน้ำต่ำ ทนต่อสภาพอากาศและเหมาะกับพื้นที่กลางแจ้ง
    • กระเบื้องหินอ่อนเทียม – ให้ความสวยงามคล้ายหินธรรมชาติ แต่มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า และดูแลรักษาง่ายกว่าหินอ่อนจริง จึงตอบโจทย์กับการปูพื้นสวนราคาประหยัด
    • กระเบื้องดินเผา (Terracotta Tile) – มีความแข็งแรงและดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับบ้านสไตล์ทรอปิคอลหรือเมดิเตอร์เรเนียน แต่ต้องซีลป้องกันน้ำเพื่อยืดอายุการใช้งาน
    • คอนกรีตพิมพ์ลาย (Stamped Concrete) – ให้ความสวยงามคล้ายหินธรรมชาติหรือลายไม้ในราคาประหยัด ดูแลรักษาง่าย
    • แผ่นพื้นสำเร็จรูป (Concrete Slab) – ติดตั้งง่าย ราคาถูก และเหมาะกับลานบ้านหรือที่จอดรถ
    • บล็อกปูพื้น (Interlocking Pavers) – มีหลายขนาดและรูปแบบ สามารถติดตั้งเองได้และซ่อมแซมเฉพาะจุดได้ง่าย


      3. เลือกช่างผู้รับเหมาที่มีคุณภาพ

      การได้ช่างฝีมือดีเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้สามารถปูพื้นบ้านแบบประหยัดและได้งานคุณภาพดี ทนทาน โดยไม่ต้องเสียเงินซ้ำไปกับการซ่อมแซม

      • หาข้อมูลและดูรีวิว : ค้นหาช่างที่มีผลงานดีจากรีวิวออนไลน์ หรือสอบถามจากคนรู้จักที่เคยใช้บริการ
      • สอบถามราคาอย่างละเอียด : ขอใบเสนอราคาจากช่างหลายราย เพื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย แต่ควรระวังในเรื่องของค่าติดตั้ง ที่หากถูกเกินไปอาจหมายถึงคุณภาพการทำงานที่ต่ำลง ดังนั้น จึงควรพิจารณาให้รอบคอบ
      • เลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือแทนการจ้างช่างรายย่อย : ถึงแม้การจ้างช่างทั่วไปจะประหยัดกว่าในตอนแรก แต่ก็เสี่ยงที่ต้องเจอกับปัญหาทิ้งงาน ทำให้งานไม่จบ ต้องตามหาช่างเจ้าใหม่มาแก้งานหรือเก็บงานซ้ำ สิ้นเปลืองทั้งงบประมาณและเวลา ดังนั้น การเลือกบริษัทรับเหมาที่มีความน่าเชื่อถือ มีทีมงานครบ และมีการรับประกันงาน จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและคุ้มค่ากว่าในระยะยาว


      แนะนำเทคนิคการปูพื้นนอกบ้านแบบประหยัดแต่ได้งานเนี้ยบ


      4. เทคนิคการปูพื้นที่ช่วยลดต้นทุน

      การปูพื้นด้วยเทคนิคที่ถูกต้องย่อมช่วยลดการสิ้นเปลืองวัสดุและลดต้นทุนแรงงาน โดยเทคนิคเหล่านี้คือสิ่งที่ช่วยให้การปูพื้นบ้านแบบประหยัดเป็นจริงได้ยิ่งขึ้น

      • ปรับพื้นให้เรียบก่อนปู : หากพื้นเดิมไม่เรียบ อาจต้องใช้ปูนปรับระดับ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดังนั้น ควรตรวจสอบพื้นให้ดีว่ามีความเรียบเพียงพอหรือไม่
      • เลือกขนาดกระเบื้องที่เหมาะสม : กระเบื้องขนาดใหญ่ (60x60 ซม. ขึ้นไป) สามารถช่วยลดรอยต่อและลดปริมาณกาวปูพื้นและยาแนวที่ต้องใช้
      • ออกแบบลวดลายเรียบง่าย : ลวดลายที่ซับซ้อนอาจต้องใช้แรงงานฝีมือสูง ทำให้มีค่าแรงเพิ่มขึ้น จึงควรเลือกลวดลายแบบมาตรฐาน เช่น การปูแบบตรง (Stacked Bond) หรือการวางแบบสลับ (Running Bond) จะช่วยลดต้นทุนได้
      • เลือกใช้ปูนกาวให้เหมาะกับพื้นผิว : ปูนกาวที่ใช้ปูพื้นและผนังมีหลายประเภท เช่น ปูนเขียว เหมาะสำหรับปูพื้นทั่วไปที่ไม่ต้องการแรงยึดเกาะสูงมาก ในขณะที่ ปูนแดง หรือ ปูนทอง เหมาะกับงานปูผนังหรือพื้นที่ที่ต้องการการยึดเกาะสูงกว่า ซึ่งหากใช้ปูนผิดประเภทก็อาจทำให้ต้นทุนบานปลายโดยไม่จำเป็น หรือในระยะยาวอาจเกิดปัญหากระเบื้องหลุดร่อนตามมาได้


        5. การดูแลและรักษาหลังการปูพื้น

        • ทำความสะอาดทันทีหลังปูพื้น : คราบปูนหรือกาวที่ติดอยู่บนพื้นอาจทำให้เกิดรอยด่างถาวร ควรเช็ดออกก่อนที่จะแห้ง
        • ใช้วัสดุป้องกันพื้น : หากพื้นที่ยังมีงานก่อสร้างอื่น ๆ ต่อเนื่อง ควรคลุมพื้นด้วยแผ่นพลาสติกหรือผ้าใบเพื่อป้องกันรอยขีดข่วน
        • เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสม : กระเบื้องบางประเภทต้องใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะ เช่น กระเบื้องดินเผาต้องใช้สารเคลือบกันน้ำเพื่อป้องกันเชื้อรา ดังนั้น ถ้าไม่อยากเสี่ยงต่อการซ่อมแซม หรือปูซ้ำ จึงควรใส่ใจกับการดูแลเหล่านี้ด้วย

        จากที่อธิบายไปข้างต้น เรียกได้ว่าการเลือกกระเบื้องที่มีคุณภาพสูงและเหมาะกับการใช้งานคือหนึ่งในขั้นตอนสำคัญสำหรับการปูพื้นบ้านแบบประหยัดและได้งานคุณภาพดี เพราะกระเบื้องปูพื้นภายนอกคุณภาพสูงไม่เพียงช่วยลดปัญหาการซ่อมแซมในอนาคต แต่ยังเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่บ้านของคุณอีกด้วย ดังนั้น หากคุณกำลังมองหากระเบื้องเกรดพรีเมียมที่ผ่านการคัดสรรและไว้วางใจได้ ไทย สุงฯ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยประสบการณ์กว่า 21 ปี และการบริการที่เป็นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องปูพื้นหรือผนัง โดยสามารถเลือกชมได้ทั้งในเว็บไซต์และที่โชว์รูม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ Hotline : 0 2138 8911-16 ( อัตโนมัติ 6 คู่สาย ) หรือ Add LINE Official Account: @thaisoung

         

        แหล่งอ้างอิง

        1. How to choose outdoor flooring. สืบค้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 จาก https://www.granddesignsmagazine.com/garden/landscaping/outdoor-flooring/


        สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

        qr_line_thaisoung
        line_thaisoung
        facebook_thaisoung
        instagram_thaisoung
        tiktok_thaisoung

        tel:0 2138 8911

        telephone_thaisoung
        Thaisoung_writer

        THAI SOUNG WRITER

        เชี่ยวชาญเรื่องกระเบื้องปูพื้นและบุผนังมามากกว่า 22 ปี เราพร้อมมุ่งมั่นมอบความรู้และเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระเบื้องทุกประเภท เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถเลือกใช้กระเบื้องที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณด้วยมาตรฐานและคุณภาพสูงสุด

        บทความ ล่าสุด